วิธีบริหารรายได้เพื่อความมั่นคงในชีวิต ขยันทำงาน หาเงินเก่ง มีรายได้จากงานประจำ และรายได้เสริมแต่ไม่เคยมีเงินเหลือเก็บ เชื่อว่าหลายๆคนเคยเป็นหรือกำลังเป็นเช่นเดียวกันนี้สาเหตุใหญ่ที่ทำให้หลายๆคนหาเงินได้มากแต่ไม่เคยมีเงินเก็บส่วนหนึ่งมาจากไม่มีการวางแผน ในการใช้จ่ายเงิน ไม่มีการบริหารการเงินที่ดี หาเงินมาได้เท่าไหร่หรือมีเงินมากแค่ไหนก็ไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการของตนเองในการนำไปใช้จ่าย หากใครเป็นเช่นนี้วันนี้ผู้เขียนมีวิธีบริหารรายได้เพื่อความมั่นคงในชีวิตมาแนะนำค่ะ วิธีบริหารเงินมีหลายรูปแบบไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว การบริหารเงินไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากเพราะทุกคนผ่านการบริหารเงินมาแล้วแต่อาจไม่รู้ตัว เช่น การที่เราวางแผนว่าวันนี้เราจะใช้เงินซื้ออะไรใช้งบประมาณเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อยมักไม่ให้ความสำคัญกับการบริหารเงินเพื่อให้มีเหลือเก็บ เพราะคิดว่าการบริหารเงินคือการใช้เงินอย่างประหยัด และเน้นการหางานพิเศษทำเพื่อให้มีรายได้เสริมเท่านั้น ในความเป็นจริงการบริหารเงินมีหลายรูปแบบไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัว วิธีง่ายๆ เช่น เปิดบัญชีเงินฝากแยกจากบัญชีอื่นๆ แล้วนำเงินรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายฝากเข้าบัญชีทุกครั้งที่มีรายได้เกิดขึ้น จำนวนเงินฝากอาจไม่มากแต่หากทำเป็นประจำก็จะทำให้เรามีเงินเก็บได้โดยไม่รู้ตัว ในกรณีที่มีเงินเหลือหลังจากหักฝากแล้วไม่พอกับค่าใช้จ่าย การหารายได้เสริม เป็นวิธีที่ช่วยให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น การบริหารรายได้เพื่อความมั่นคงในชีวิต อาจทำได้หลายรูปแบบ แต่การมีเงินเก็บออมไว้ในบัญชีเป็นวิธีที่ดีและทำง่ายที่สุดสามารถนำออกมาใช้จ่ายได้อย่างสะดวกรวดเร็วเมื่อมีความจำเป็น

ข้าวต้มมัดทำง่ายขายได้ทุกเวลา “ข้าวต้มมัด” ขนมไทยๆที่คนส่วนใหญ่นิยมทาน เพราะเป็นได้ทั้งของหวาน ของว่าง อาหารทานเล่นหรือเป็นอาหารทานรองท้องเมื่อเริ่มรู้สึกหิวข้าว ข้าวต้มเป็นขนมไทยๆที่คงเอกลักษณ์ห่อใบตองสวยงาม ห่อได้หลายแบบทั้งแบบห่อเป็นกลีบๆ หรือนำมามัดรวมกันเป็นคู่ๆเรียกว่า ข้าวต้มมัด มีหลายไส้เช่นไส้กล้วย ไส้เผือก ไส้ถั่ว ไส้หมู สำหรับคนที่ต้องการมีรายได้ ข้าวต้มมัด เป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่ทำง่ายขายได้ทุกเวลา ถึงแม้จะมีหลายขั้นตอนในการทำ และต้องมีฝีมือประณีตในการห่อแต่ก็เป็นงานที่เหมาะสำหรับทำเป็นอาชีพเสริม งานพิเศษทำที่บ้านที่สามารถพัฒนาเป็นธุรกิจธุรกิจแฟรนไชส์ สูตรการทำข้าวต้มมัด เป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่ทำขายได้หลายวิธีหากเป็นสูตรแบบโบราณดั้งเดิม จะใช้วิธีนำข้าวเหนียวมาผัดกับกะทิแล้วนำมาห่อใบตอง แต่ในปัจจุบันจะมีการทำข้าวต้มแบบแช่แข็งเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน เมื่อต้องการทานก็เพียงนำไปเข้าไมโครเวฟประมาณ 3 นาทีก็นำออกมาทานได้ สูตรนี้จะใช้ข้าวเหนียวมูลมาทำ เป็นการประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญกับการดำเนินชีวิตของคนเรา สูตรข้าวต้มมัดที่สามารถแช่แข็งไว้ทานได้เป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่สามารถพัฒนาให้เป็นธุรกิจได้หากมีฝีมือและทำอร่อย เช่นทำเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ส่งขายให้กับกลุ่มลูกค้า  หรือขายส่งตามร้านสะดวกซื้อที่ต้องบริการเวฟให้กับลูกค้าก่อนซื้อไปรับประทาน งานพิเศษทำที่บ้าน มีหลายประเภทให้เลือกทำขึ้นอยู่กับความต้องการและจุดประสงค์

ทำขนมจีนน้ำยาไก่หารายได้พิเศษ อาหารจานด่วนที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานนอกจากข้าว ก๊วยเตี๋ยวแล้ว ก็คงเป็นขนมจีนน้ำยา เพราะเป็นอาหารที่ทานง่าย อร่อยทานแล้วอิ่มท้องอีกด้วยค่ะ สำหรับคนที่กำลังมองหางานพิเศษหรือหางานเสริมทำเพื่อให้มีรายได้พิเศษ วันนี้ผู้เขียนมีสูตรขนมจีนน้ำยาไก่มาแนะนำให้ทำขาย เป็นการหารายได้พิเศษในช่วงวันหยุด หรือจะทำขายในช่วงเทศกาลหรืองานออกร้านของหน่วยงาน เช่นงานกาชาด งานผลไม้งานแสดงผ้าไหม หรืองานแสดงสินค้าต่างๆก็ได้นะค่ะ วิธีทำขนมจีนอาหารจานด่วนที่นิยม ขนมจีนน้ำยาไก่ เป็นอาหารจานด่วนที่ทานคู่กับเครื่องเคียงซึ่งมีทั้งผักสด ผักดองและผักสุก เหมาะสำหรับทำขายเพื่อหารายได้พิเศษ เพราะมีวิธีการขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก เส้นขนมจีนหาซื้อง่าย ปัจจุบันมีขายเป็นแพ็คเล็กๆเหมาะสำหรับทานภายในครอบครัวที่มีคนไม่มาก วิธีทำน้ำยาไก่ – เครื่องปรุง กระชายล้างให้สะอาดแล้วหั่น200 กรัม ตะไคร้ หั่น 150 กรัม ข่าหั่นเป็นแว่นบางๆ ประมาณ 10 แว่น หอมแดงปลอกเปลือกหั่น 10 หัว กระเทียมประมาณ 20 กลีบ พริกใหญ่แห้งแกะเม็ดออกแล้วแช่น้ำประมาณ 5 เม็ด เนื้ออกไก่ 500 กรัม กะทิคั้นแยกหัวหาง 1 กก. น้ำปลา เกลือป่น ผักสำหรับทานคู่กับขนมจีน เช่น ถั่วงอกดิบ ใบแมงลัก ผักกาดดอง ผักบุ้งลวก พริกป่น หรือตามชอบวิธีทำ ขั้นตอนแรกนำหางกะทิขึ้นตั้งไฟแล้วนำเนื้ออกไก่ลงต้มให้เปื่อยแล้วนำมาฉีกหรือหั่นจากนั้นนำไปโขลกในครกให้ละเอียด นำเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ลงลวกในหางกะทิต่อจากเนื้ออกไก่ให้สุก แล้วกรองให้สะเด็ดน้ำนำไปโขลกเช่นเดียวกับเนื้ออกไก่ นำหัวกะทิขึ้นตั้งไฟคนตลอดเวลาจนกะทิแตกมัน นำเครื่องปรุงที่โขลกละเอียดลงละลายในหัวกะทิ เติมเนื้อไก่ น้ำปลา เกลือ ปรุงรสให้กลมกล่อมทานคู่กับขนมจีนและผักเคียง

ทำขนมทองม้วนเป็นงานพิเศษทำที่บ้าน ทองม้วนขนมไทยโบราณ รสชาติหอมหวานกรอบอร่อย นิยมทานเล่นเป็นของว่างที่ทานได้ไม่เบื่อ สำหรับคนที่ต้องการมีงานพิเศษทำที่บ้านเพื่อหารายได้เสริม ผู้เขียนแนะนำให้ทำขนมทองม้วนขาย เพราะเป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่ทำไม่ยาก ลงทุนน้อย ขายง่ายกำไรดี อุปกรณ์สำหรับทำขนมทองม้วนก็มีไม่มาก หากสนใจผู้เขียนมีสูตรและวิธีทำมาแนะนำด้วยค่ะ สูตรการทำทองม้วนกรอบสูตรโบราณ อุปกรณ์ที่ใช้มีเพียงเตาพิมพ์ไฟฟ้า และถุงสำหรับบรรจุทองม้วน ส่วนผสม 1. แป้งสาลีร่อนแล้ว 500 กรัม 2. มะพร้าวขูด 500 กรัม 3. ไข่ไก่ 3 ฟอง 4. น้ำตาลทราย 5. 300 กรัม 6. เกลือป่นเล็กน้อย 7. ผักชี 100 กรัม 8. งาดำคั่ว 100 กรัม 9. น้ำสะอาด 10.น้ำมันสำหรับทาพิมพ์ วิธีทำ 1. นำมะพร้าวมาคั้นให้ได้หัวกะทิ 2 ถ้วย และหางกะทิอีก 2 ถ้วย 2. นำแป้งสาลีที่ร่อนไว้แล้วมาผสมกับน้ำตาลทรายแล้วพักไว้ 3. ตอกไข่ใส่ภาชนะตีให้เข้ากันใส่หัวกะทิ เกลือ ผสมให้เข้ากัน 4. นำส่วนผสมที่ได้ไปผสมกับแป้และน้ำตาลที่พักไว้โดยเติมลงทีละน้อยแล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากับเนื้อแป้ง หากแป้งข้นเกินไปก็เติมหางกะทิลงไปได้

เคล็ดลับการทำปลาหมึกให้อร่อยไม่เหม็นคาว อาชีพค้าขายที่ทำได้ง่ายๆ และเหมาะกับการนำมามาหารายได้พิเศษ มีหลายประเภทโดยเฉพาะอาหารทะเลอย่างเช่นปลาหมึก ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นเมนูอาหารได้หลากหลายประเภท เช่น ปลาหมึกย่าง ปลาหมึกลวกจิ้ม ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว และเมนูอื่นๆ หลายคนเลือกอาหารทะเลเหล่านี้มาทำเป็นอาหารรสเด็ดขายตามตลาดเย็น หรือขายตามตลาดนัดและตามสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเป็นอาชีพเสริมหรือหารายได้พิเศษในช่วงวันหยุด ซึ่งอาหารทะเลเหล่านี้นอกจากทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดแล้วการทำให้อร่อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างทั้งความสดใหม่และขั้นตอนการทำปลาหมึก วันนี้ผู้เขียนก็เลยมีเคล็ดลับการทำปลาหมึกให้กรอบอร่อยไม่เหม็นคาวมาแนะนำค่ะ เคล็ดลับง่ายๆปรุงอาหารที่ทำจากปลาหมึกได้กรอบอร่อยและมีรายได้พิเศษมากยิ่งขึ้น การนำปลาหมึกมาทำอาหารเพื่อหารายได้พิเศษสิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญก็คือการเลือกชนิดของปลาหมึกให้เหมาะกับอาหารที่ต้องการนำมาปรุง ถ้าเป็นประเภทปิ้งย่างควรใช้ปลาหมึกหอมหรือปลาหมึกกระดองเพราะเนื้อจะแน่น ส่วนการนำปลาหมึกมาปรุงอาหารประเภทอื่นๆ ควรใช้ปลาหมึกกล้วยเพราะเนื้อบางเมื่อนำมาปรุงอาหารจะทำให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อได้ง่ายสำหรับเคล็ดลับการทำปลาหมักให้กรอบอร่อยและไม่เหม็นคาวมีดังนี้ 1.ต้องใช้ไฟแรงและใช้เวลาในการปรุงสั้น เพราะเนื้อปลาหมึกปรุงสุกง่าย หากใช้เวลาปรุงนานจะทำให้ปลาหมึกเหนียวได้ 2.ปลาหมึกเนื้อจะมีเนื้อแน่น ก่อนนำมาปรุงต้องบั้งตัวปลาหมึกให้เป็นตาราง โดยใช้มีดคมๆเอียง 45 องศาแล้วบั้งถี่ เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อได้ง่าย 3. วิธีล้างปลาหมึกไม่ให้มีกลิ่นคาวควรบีบมะนาวลงไปในน้ำที่ใช้ล้างจะช่วยดับกลิ่นได้ 4.วิธีนำปลาหมึกมาปรุงอาหารให้อร่อย ไม่เหนี่ยวและชิ้นปลาหมึกไม่เหี่ยวแห้ง เมื่อบั้งตัวปลาหมึกและหั่นเป็นชิ้นตามต้องการแล้วให้นำไปลวกในน้ำร้อนที่เดือดจัดแล้วรีบตักขึ้นอย่าให้สุกเกินไปเพราะจะทำให้ปลาหมึกเหนียว หากลวกแล้วปรุงอาหารไม่หมดก็สามารถเก็บใส่ภาชนะนำเข้าตู้เย็นเก็บไว้ได้