วิธีทำหมูหยองเคล็ดลับความอร่อยทำขายหารายได้แสริม
วิธีทำหมูหยองขายหารายได้แสริม สำหรับคุณแม่บ้านที่ต้องการหารายได้เสริมทำที่บ้าน วันนี้ eveleighmarket.com มีวิธีทำหมูหยองมาแนะนำค่ะ ถึงแม้หมูหยองจะมีวิธีการทำที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนและเนื้อหมูยังมีราคาแพง แต่หากทำสำเร็จแล้วแล้วก็เป็นสินค้าที่มีราคาแพงด้วยเช่นกัน การทำหมูหยองขายหารายได้เสริมทำที่บ้านจึงเป็นอาชีพที่น่าสนใจเพราะนอกจากหมูหยองจะทานคู่กับอาหารอื่นๆเช่นข้าวต้ม ทานกับโจ๊ก หรือทานกับข้าวเหนียวยังนำไปปรุงทำเป็นไส้ขนมปังต่างๆได้และยังสามารถเก็บไว้ได้นานเรามาดูรายละเอียดและวิธีทำกันเลยค่ะ ส่วนประกอบและวิธีทำหมูหยอง ส่วนประกอบ หมูเนื้อแดงส่วนสะโพก1000 กรัม น้ำตาลทราย 150 กรัม น้ำตาลปีบ 150 กรัม เครื่องพะโล้ 1 ชุด เกลือป่น ½ ช้อนชา ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วดำเค็ม 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 1 ลิตร วิธีทำหมูหยอง 1.นำเนื้อหมูมาหั่นเป็นชิ้นยาวๆตามเส้นของเนื้อหมูขนาด 2.ใช้ซ่อมหรือมีดปลายแหลมจิ้มให้ทั่วชิ้นหมูเพื่อให้เครื่องซึมเข้าในเนื้อหมู 3.นำชิ้นหมูที่ได้ใส่หม้อต้มเติมน้ำให้ท่วมใส่เครื่องพะโล้ และปรุงด้วยน้ำตาลทราย น้ำตาลปีบ เกลือป่น ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ ต้มนานประมาณ 45 นาทีหรือจนเนื้อหมูสุกนิ่ม 4.นำหมูที่ต้มขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำแล้วนำมามาโขลกเบาๆในครกหินพอให้เนื้อหมูแตกแล้วนำมีดปลายแหลมหรือซ่อมเขี่ยเนื้อหมูให้แยกจากกันเป็นชิ้นเล็กๆ ทำจนหมดเนื้อหมูที่เตรียมไว้ 5.จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 30 นาทีหากไม่มีเตาอบหรือไมโครเวฟนำไปตากแดดก็ได้เช่นกัน 6.แล้วนำเนื้อหมูที่อบมาโขลกอีกครั้งเพื่อให้เนื้อหมูฟูมากขึ้น 7.นำเนื้อหมูที่ได้ผัดในกระทะใช้ไฟอ่อนๆจนเนื้อหมูมีลักษณะเป็นสีเหลืองตามที่เราต้องการ เคล็ดลับความอร่อย ของหมูหยองขึ้นอยู่กับขั้นตอนการทำที่ต้องมีความละเอียดอ่อนและใจเย็น โดยเฉพาะการโขลกให้เนื้อหมูหยองฟูสวย หากต้องการทำขายหารายได้เสริมทำที่บ้านขั้นตอนนี้ถือว่ามีความสำคัญ ถึงแม้จะมีวิธีทำหลายขั้นตอนแต่การทำเองก็จะได้หมูหยองที่มีราคาถูกกว่าซื้อสำเร็จหลายเท่าตัวค่ะ
วิธีทำน้ำมะพร้าวขายเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้หารายได้พิเศษ
ขายเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้หารายได้พิเศษ อากาศร้อนๆอย่างบ้านเราหากใครคิดจะหารายได้พิเศษ ขายเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ หรือน้ำผลไม้ปั่นเชื่อว่าเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนที่สนใจได้ดีไม่น้อยไปกว่าขายของกินประเภทอื่นๆน้ำผลไม้มีหลายประเภทที่คนนิยมดื่ม ทั้งประเภทที่นำมาปั่นหรือทำเป็นน้ำผลไม่พร้อมดื่มที่นำมาใส่กับน้ำแข็งก็พร้อมดื่มได้ทันที เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำเก๊กฮวย น้ำมะตูม หรือน้ำมะพร้าว สำหรับคนที่สนใจหารายได้พิเศษจากอาชีพนี้ eveleighmarket.com มีวิธีทำน้ำมะพร้าวมาฝากค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำน้ำมะพร้าว ส่วนผสม 1.มะพร้าวน้ำหอม 5 ลูก 2.น้ำสะอาด 5 ลิตร 3.น้ำตาลทราย 2 กิโลกรัม 4.ใบเตย 10 ใบ วิธีทำ 1.ปอกมะพร้าวให้สะอาดแล้วเทน้ำมะพร้าวแยกไว้ 2.นำเนื้อมะพร้าวอ่อนมาหั่นเป็นเส้นๆ พยายามอย่าให้ติดกะลา 3.ใส่น้ำเปล่าที่เตรียมไว้ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทรายและใบเตยลงไปต้มจนน้ำตาลทรายละลาย รอให้น้ำเดือดเคี่ยวน้ำตาลต่อสักครู่ตักใบเตยออกแล้วเติมน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวลงไปต้มต่อประมาณ 5 นาที 4.ยกลงพักไว้ให้เย็น แล้วกรอกใส่ภาชนะนำเข้าตู้เย็นเก็บไว้ดื่มได้นาน 5.เวลาดื่มนำน้ำแข็งใส่แก้วเติมน้ำมะพร้าวดื่มเย็นๆชื่นใจ ประโยชน์ของน้ำมะพร้าว ประโยชน์ของมะพร้าวนั้นมีมากมาย ทั้งส่วนของลำต้น ใบ ก้านใบ เปลือกมะพร้าว เนื้อมะพร้าว และน้ำมะพร้าวอ่อนซึ่งเป็นน้ำเกลือแร่จากธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อร่างการเมื่อดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนหนึ่งผลจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณของวิตามินบีและวิตามินซีที่พอเพียงกับความต้องการของร่างกายต่อวันได้โดยไม่ต้องรับเพิ่มจากแหล่งอื่นน้ำมะพร้าวอ่อนที่นิยมดื่มควรเป็นมะพร้าวที่มีอายุประมาณหนึ่งเดือน สำหรับการทำน้ำมะพร้าวขาย หากต้องการทำเป็นน้ำมะพร้าวพร้อมดื่มโดยไม่ต้องดื่มคู่กับน้ำแข็ง เพียงลดอัตราส่วนของน้ำตาลลงเพื่อไม่ให้น้ำมะพร้าวหวานมากจนเกินไปจากนั้นนำไปกรอกใส่ขวดปิดฝานำเข้าตู้แช่เก็บไว้ดื่มเย็นๆหรือจะทำขายหารายได้พิเศษก็เป็นอาชีพเสริมทำเงินที่น่าสนใจค่ะ
วิธีปลูกชาฮกเกี้ยนหรือชาดัดการเพาะชำต้นชาฮกเกี้ยน
ต้นชาฮกเกี้ยน หากใครกำลังคิดจะตกแต่งหรือปรับภูมิทัศน์ภายในบริเวณบ้าน เพื่อให้มีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ วันนี้ eveleighmarket.comมีเรื่องราวเกี่ยวกับต้นชาฮกเกี้ยนมาแนะนำให้ปลูกเป็นงานพิเศษค่ะ เพราะนอกจากปลูกเพื่อตกแต่งปรับภูมิทัศน์ให้บ้านสวยงามแล้ว การตัดแต่งกิ่งต้นชาฮกเกี้ยนยังเป็นงานพิเศษ ที่ให้ความสุขสนุกและเพลิดเพลินไปกับการตัดแต่งอีกด้วย ชาฮกเกี้ยนหรือชาดัด ต้นชาฮกเกี้ยน เป็นไม้พุ่มต้นเล็กๆมีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน คำว่า “ต้นชาฮกเกี้ยน” คนอาจไม่รู้จักหรือไม่รู้สึกคุ้นเคย หากเรียกชื่อพื้นเมือง เช่น ชาดัดใบมัน ข่อยจีน ชาญวน หรือชาญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันดี ต้นชาฮกเกี้ยนนอกจากเป็นไม้พุ่มหรือไม้ใบแล้ว ยังมีดอกเล็กๆสีขาวหมุนเวียนออกดอกตลอดทั้งปี ลักษณะที่โดดเด่น ต้นชาฮกเกี้ยน เป็นไม้ดัดที่เราพบเห็นได้ทั่วไปแต่ความน่าสนใจและลักษณะที่โดดเด่นก็คือ การนำมาดัดหรือตัดแต่งให้เป็นรูปร่างต่างๆ เช่น เป็นรูปสัตว์ รูปคน ประติมากรรม หรือตัดแต่งให้เป็นรูปทรงอื่นๆตามความต้องการ ถือเป็นงานพิเศษ สำหรับคนที่มีใจรักและมีไอเดียสร้างสรรค์ นอกจากเป็นไม้ดัดที่สามารถนำมาดัดหรือตัดตกแต่งให้เป็นรูปต่างๆตามที่เราต้องการได้แล้ว ประโยชน์ของต้นชาฮกเกี้ยนที่น่าสนใจก็คือ การนำมาปลูกทำเป็นแนวรั้วหรือกำแพง กิ่งที่แตกจากลำต้นลักษณะเป็นพุ่มมีใบมากและหนาแน่น ลำต้นสูงประมาณ 2 เมตร และมีใบเดี่ยวขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก ทำให้เหมาะสำหรับนำมาปลูกเป็นแนวรั้ว วิธีปลูกและการดูแลรักษาต้นชาฮกเกี้ยน วิธีปลูกชาฮกเกี้ยน แตกต่างจากการปลูกไม้ประดับทั่วไปเพราะส่วนใหญ่นิยมปลูกเป็นกำแพงหรือแนวรั้ว หากต้องการปลูกในลักษณะนี้ให้ขุดดินเป็นทางยาว เมื่อได้แนวหลุมแล้วนำต้นพันธุ์ชาฮกเกี้ยนปลูกลงในหลุมให้มีระยะห่างประมาณ 1 คืบเกลี่ยดินกลบ ปลูกจนหมดแนวหลุมที่ต้องการ การดูแลรักษา ในช่วงหน้าฝนควรรดน้ำเฉพาะเมื่อสังเกตเห็นดินแห้ง หรือฝนทิ้งช่วงนานๆ ช่วงหน้าแล้ง ควรรดน้ำทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ช่วงเช้าหรือเย็นใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยอินทรีย์อื่นๆเช่นปุ๋ยหมักบริเวณข้างแถวที่ปลูกทั้งสองข้าง พร้อมพรวนดินอย่างสม่ำเสมอ การเพาะชำต้นชาฮกเกี้ยน 1.เตรียมวัสดุ เช่น ถุงเพาะชำตามขนาดที่ต้องการ…
วิธีทำขนมเปี๊ยะเพื่อขายหารายได้เสริม
ขนมเปี๊ยะทำขายหารายได้เสริม รายได้เสริมวันนี้เป็นเรื่องของ ขนมเปี๊ยะ หรือขนมแห่งโชคลาภและความเป็นศิริมงคล เนื่องจากนิยมใช้ประกอบพิธีต่างๆเช่นเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือซื้อเป็นของขวัญของฝากผู้ที่เคารพนับถือ ขนมเปี๊ยะเป็นขนมมงคลที่มีหลายรูปแบบ สำหรับคนที่สนใจและต้องการทำขายหารายได้เสริม eveleighmarket.com มีสูตรขนมเปี๊ยะชาววังมาแนะนำค่ะ สูตรขนมเปี๊ยะชาววัง ส่วนประกอบแป้งชั้นนอก 1.แป้งสาลีตราบัวแดง 2 ½ ถ้วย 2.น้ำมันพืช ½ ถ้วย 3.น้ำใบเตย ½ ถ้วย 4.เกลือป่น ½ ช้อนชา 5.น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ ส่วนประกอบแป้งชั้นใน 1.แป้งสาลีตราบัวแดง 500 กรัม 2.น้ำตาลทราย 250 กรัม ส่วนผสมไส้ขนม ถั่วเขียวนึ่งสุกบดละเอียด 500 กรัม น้ำตาลทราย 250 กรัม น้ำมันพืช ½ ถ้วย ไข่แดงต้มสุกผ่าครึ่ง 5 ฟอง วิธีทำแป้งชั้นนอก 1.เทแป้งสาลี น้ำตาลไอซิ่ง เกลือป่นลงในภาชนะแล้วผสมรวมกัน 2.ผสมน้ำมันพืช น้ำใบเตย คนผสมกันแล้วพักไว้ 3.เทส่วนผสมในข้อ 2 ลงในส่วนผสมแป้งชั้นนอกที่ผสมกันไว้ แล้วตีด้วยความเร็วต่ำ (เบอร์ 1) ประมาณ 2 นาที หรือจนแป้งผสมเข้ากันดี 4.จากนั้นตีต่อด้วยความเร็ว เบอร์ 2,3 จนส่วนผสมมีลักษณะเนียน 5.จากนั้นพักแป้งทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง วิธีทำแป้งชั้นใน 1.นำแป้งเทใส่ภาชนะ ผมมน้ำมันพืชและสีเขียวของใบเตยลงไปนวดให้เข้ากัน แล้วพักแป้งไว้ วิธีทำไส้ขนม 1.นำถั่วเขียวบดและน้ำตาลทราย เทใส่หม้อหรือภาชนะนำไปตั้งไฟ ใช้ไฟกลางกวนจนเกือบงวด…
การทำนาบัวเพื่อตัดดอกสร้างรายได้เสริมอย่างสม่ำเสมอ
การทำนาบัวเป็นรายได้เสริม “ดอกบัว” เป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ คนที่นับถือศาสนาพุทธส่วนใหญ่นิยมนำดอกบัวไปไหว้พระหรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำให้อาชีพปลูกดอกบัวหรือทำนาบัวเป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่น่าสนใจ ของคนที่มีพื้นที่ หรือมีแหล่งน้ำที่เหมาะสำหรับการทำนาบัว นาบัวนอกจากเป็นงานพิเศษทำที่บ้านของคนที่มีงานประจำแล้ว ยังมีเกษตรกรจำนวนมากที่ยึดการทำนาบัวเป็นอาชีพหลัก ชนิดของบัว ดอกบัวที่นำมาไหว้พระหรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังมีหลายชนิด ชนิดของบัวนั้น นักพฤกษศาสตร์แบ่งออกเป็น 3 สกุลใหญ่ๆ ได้แก่ ปทุมชาติ อุบลชาติ และ บัววิกตอเรีย ในแต่ละสกุลยังจำแนกออกได้หลายชนิด ส่วนชนิดที่นิยมปลูกเป็นการค้าหรือปลูกเป็นงานพิเศษทำที่บ้าน มี 6 ชนิด ได้แก่ 1.บัวหลวง เป็นดอกบัวที่อยู่ในสกุลปทุมชาติ 2.บัวฝรั่ง อยู่ในสกุลปทุมชาติ 3.บัวผัน บัวเผื่อน อยู่ในสกุลอุบลชาติ 4.บัวสาย อยู่ในสกุลอุบลชาติ 5.จงกลนี เป็นบัวอยู่ในสกุลอุบลชาติ 6.บัวกระด้ง หรือบัววิคตอเรีย ประโยชน์ของการทำนาบัว บัวทั้ง 6 ชนิดนี้ ถือว่าบัวหลวง เป็นบัวเศรษฐกิจที่สำคัญเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกเป็นอาชีพหรือทำปลูกเป็นงานพิเศษทำที่บ้าน เพื่อหารายได้เสริม เพราะนอกจากเป็นบัวที่ปลูกไว้เพื่อตัดดอกอ่อนขายสำหรับบูชาพระ ยังปลูกเพื่อเก็บเมล็ดซึ่งนำมาประกอบอาหารคาวหวานได้หลายชนิด และส่วนต่างๆยังนำมาสร้างรายได้ เช่น ใบบัวสดใช้ห่ออาหาร ใบบัวแห้งใช้ทำยา ส่วนรากหรือไหลบัวนำมาประกอบอาหารหรือเชื่อมทำเป็นของหวานได้ การทำนาบัวเพื่อตัดดอก 1.การเตรียมดิน พื้นที่สำหรับการทำนาบัวควรเป็นที่ราบสม่ำเสมอ อยู่ใกล้แหล่งน้ำและเป็นดินเหนียว การเตรียมดินเริ่มจากการเอาน้ำออกจากนาแล้วทำคันดินให้รอบพื้นที่ ความสูงประมาณ 1.5 เมตร ไถปรับพื้นที่เช่นเดียวกับการทำนาดำ โรยปูนขาวแล้วตากแดดทิ้งไว้ 7-15 วัน จากนั้นใส่ปุ๋ยประเภทมูลสัตว์ 200 กก/ไร่แล้วปล่อยน้ำเข้านา 2.การปลูก การปลูกบัวมี 2 วิธี คือใช้ไม้คีบไหลบัวแล้วนำไปปักให้ไหลบัวติดอยู่กับพื้นดิน วิธีนี้ช่วยให้ไหลบัวไม่หลุดลอยอยู่ในน้ำและการปลูกด้วยการหมก โดยขุดดินเป็นร่องลึกนำไหลบัวลงวางแล้วกลบดินโดยเว้นตาเอาไว้ จากนั้นปล่อยน้ำเข้านาบัว 3.การเก็บเกี่ยวผลผลิต บัวจะเริ่มให้ผลผลิตดอกบัวตูม หลังจากปลูกได้ 3…