วิธีทำขนมถังแตกลงทุนน้อย ขายง่ายและกำไรดี
ขนมถังแตก รายได้พิเศษวันนี้ เป็นเรื่องของ “ขนมถังแตก” ขนมหวานที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี โดยเฉพาะตามงานวัด งานกาชาด หรืองานประจำปีต่างๆและเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ลองลิ้มชิมรสชาติของขนมถังแตกมาแล้ว ขนมถังแตกยังได้ชื่อว่าเป็นของหวานขวัญใจเด็กๆและคนมีรายได้น้อย เพราะขนาดชิ้นที่ใหญ่จนสามารถทานได้ทั้งครอบครัว ทำให้เป็นที่มาของชื่อ “ขนมถังแตก” สูตรและวิธีทำขนมถังแตก ถึงแม้จะเป็นขนมหวานงานวัดขวัญใจคนยาก แต่รสชาติที่หวานหอมทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป สำหรับคนที่ต้องการมีรายได้พิเศษ ขนมถังแตกมีส่วนผสมและวิธีทำง่ายๆวันนี้ eveleighmarket.com มีสูตรขนมถังแตกที่สามารถทำทานเองหรือฝึกทำขายหารายได้พิเศษมาแนะนำ เรามาดูสูตรและวิธีทำกันเลยค่ะ ส่วนผสมแป้ง 1.แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง 2.แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง 3.ยีสต์ 1 ช้อนชา 4.เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา 5.น้ำตาล 1 ถ้วยตวง 6.ผงฟู ½ ช้อนชา 7.น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง 8.น้ำมันพืชหรือเนย สำหรับทากระทะ ส่วนผสมสำหรับทำไส้ มะพร้าวอ่อนหรือมะพร้าวทึนทึกขูด 2 ถ้วย น้ำตาลทราย 300 กรัม เกลือป่น 1 ช้อนชา งาขาวและงาดำคั่ว 100 กรัม วิธีทำ 1.ผสมแป้ง ยีสต์ น้ำตาลทรายในอ่างหรือภาชนะอื่นๆ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นทำเป็นหลุมตรงกลางแล้วเทน้ำลงไป ตีส่วนผสมให้กันสังเกตไม่มีแป้งเป็นเม็ดๆ และน้ำตาลทรายละลายดีแล้ว 2.เทแป้งใส่ภาชนะที่มีฝาปิด จากนั้นหมักแป้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 3.เมื่อได้แป้งที่หมักไว้แล้ว ให้ใส่เบกกิ้งโซดาและผงฟูลงไป ตีส่วนผสมอีกครั้งหนึ่งจนมีฟองขึ้นแล้วพักไว้ 3. ตั้งกระทะเทปล่อน ใช่ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ทาน้ำมันหรือเนยบางๆให้ทั่วกระทะ จากนั้นนำแป้งที่ได้เทใส่กระทะ ปิดฝารอจนแป้งสุก ใส่ไส้มะพร้าวขูดที่คลุกเกลือป่นไว้ลงไป คลุกน้ำตาลทรายและงาดำงาขาว…
วิธีทำต้มเส้นเมนูอาหารพื้นบ้านรสเด็ดเมนูเด็ดที่สามารถทำขายหารายได้พิเศษ
เมนูอาหารพื้นบ้านรสเด็ด “ต้มเส้น” ฟังชื่อหรืออ่านชื่อเมนูอาหาร หากไม่ใช่คนในท้องถิ่นอีสานก็คงนึกภาพอาหารไม่ออก แต่หากเป็นคนในท้องถิ่นแล้ว ต้มเส้น คือเมนูอาหารพื้นบ้านรสเด็ดที่หาทานได้ไม่ยากในภาคอีสาน โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นที่ได้ชื่อว่า เป็นเมนูเด็ดที่สามารถทำขายหารายได้พิเศษ หรือทำเป็นอาชีพหลักได้กันเลยทีเดียว ต้มเส้น คืออะไร ต้มเส้น เป็นเมนูอาหารจานเดียวที่นิยมทานเป็นอาหารเช้า และต้มเส้นยังเป็นเมนูอาหารเช้าขึ้นชื่อของจังหวัดขอนแก่น ลักษณะคือการนำวุ้นเส้นไปต้มในน้ำซุปปรุงแบบต้มเลือดหมู จุดเด่นคือใส่ขาไก่หรือตีนไก่ รวมทั้งเครื่องปรุงอื่นๆ เป็นเมนูอาหารพื้นบ้านที่มีวิธีทำง่ายๆ เหมาะสำหรับทำขายหารายได้พิเศษ หรือทำทานในครอบครัว สูตรและวิธีทำต้มเส้น เครื่องปรุงและส่วนประกอบ ขาไก่หรือตีนไก่ 1 กิโลกรัม เนื้อไก่ 300 กรัม เลือด 2 ก้อน โครงไก่สำหรับทำน้ำซุป กระเทียมแกะกลีบ 100 กรัม น้ำมันพืช 1 ถ้วย วุ้นเส้น 1 ห่อ ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ้วหวาน 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 2 ช้อนชา น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ผงปรุงรส 1 ช้อนชา ต้นหอมผักชี ซอย 1 ถ้วย น้ำเปล่า 2 ลิตร วิธีทำ 1.เทน้ำเปล่าใส่ภาชนะ นำขึ้นตั้งไฟ ทุบรากฝักชีใส่ลงไป รอจนน้ำเดือดใส่โครงไก่ลงไปต้ม 2.ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซีอิ้วขาว สีอิ้วหวาน รอจนโครงไก่สุก ลดไฟลงเคี่ยวไฟอ่อนๆหมั่นช้อนฟองทิ้งจนน้ำซุปลักษณะใส 3.ล้างทำความสะอาดน่องไก่ ส่วนตีนไก่ตัดส่วนเล็บออกพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ 4.เร่งไฟให้น้ำซุปเดือดอีกครั้ง นำน่องไก่และตีนไก่ลงไปต้ม 5.วุ้นเส้นแช่น้ำจนนิ่ม เมื่อน่องไก่และตีนไก่เริ่มสุก…
ลำไยไม้ผลเศรษฐกิจในฤดูและนอกฤดู
ลำไย งานพิเศษที่ eveleighmarket.com นำมาฝากวันนี้เป็นเรื่องของ ลำไย ไม้ผลเศรษฐกิจทั้งในฤดูและนอกฤดูถึงแม้จะมีปัญหาราคาลำไยตกต่ำบ้างหากเปรียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงราคาตกต่ำ ลำไยก็ยังเป็นผลไม่เพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถนำมาแปรรูปได้หลายรูปแบบ และยังเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ การปลูกลำไยจึงนอกจากเก็บผลผลิตขายแล้วการแปรรูปยังเป็นงานพิเศษที่ช่วยสร้างงานสร้างรายได้และลดปัญหาราคาลำไยตกต่ำได้อีกด้วย ลำไย ไม้ผลเศรษฐกิจในฤดูและนอกฤดู ความเป็นมา ลำไยเป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตร้อนและกึ่งร้อนในเอเชีย ซึ่งอาจมีถิ่นกำเนิดในลังกาอินเดียพม่าหรือจีน สำหรับประเทศไทยพบหลักฐานเป็นต้นลำไยในสวนเก่าแก่ของ ร.อ.หลวงราญอริพล(เหรียญสรรพเสน) ที่ปลูกในตรอกจันทร์ถนนสาธุประดิษฐ์ใกล้วัดปริวาศในสมัยรัชการที่ 5 เป็นลำไยที่ขยายพันธุ์มาจากเมล็ด จึงเป็นหลักฐานที่แสดงได้ว่า ลำไย มีในประเทศไทยมาก่อนนั้นแล้ว ต่อมาได้มีการนำพันธุ์ลำไยจากกรุงเทพฯไปปลูกที่จังหวัดเชียงใหม่โดยเจ้าดารารัศมี และขยายพันธุ์ไปทั่วทุกภูมิภาคโดยการเพาะเมล็ดจนเกิดการแปรพันธุ์ไปตามลักษณะสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จังหวัดลำพูน จนทำให้เกิดลำไยต้นหมื่นขึ้นที่บ้านหนองช้าง อำเภอเมืองลำพูน เนื่องจากสามารถเก็บผลผลิตต้นเดียวขายได้ราคาเป็นหมื่นในปี พ.ศ.2511 และมีการพัฒนาพันธุ์มาเรื่อยๆจนปัจจุบันมีการปลูกลำไยมากถึง 157,220 ไร่ ประโยชน์ของลำไย ลำไยนอกจากเป็นผลไม้ทานผลสุกแล้ว ยังนำไปแปรรูปเป็นการหางานพิเศษที่สามารถสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าให้กับลำไยได้อีกหลายรูปแบบ เช่น ทำเป็นลำไยกระป๋อง ลำไยอบแห้งที่สามารถทำได้ 2 รูปแบบ คือลำไยอบแห้งทั้งเปลือก และลำไยอบแห้งเฉพาะเนื้อนอกจากนั้นลำไยผลสดยังใช้เป็นส่วนประกอบในขนมหวานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ข้าวเหนียวเปียกลำไย ลำไยลอยแก้ว วุ้นลำไย และยังเป็นส่วนประกอบในอาหารคาวบางประเภทได้เช่นกัน ลำไยถือเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่เริ่มเก็บผลขายได้เริ่มตั้งแต่ปลายเดือน มิถุนายน หรือในช่วงเดือน กรกฎาคม แต่เนื่องจากลำไยเป็นไม้ผลที่สามารถชักนำการออกดอกได้ง่าย จึงเป็นผลไม้ที่นิยมใช้สารเคมีกระตุ้นให้ออกดอกนอกฤดู และยังเป็นผลไม้ที่ไม่ต้องห่อผลเพียงตัดแต่งกิ่งและดูแลรดน้ำใส่ปุ๋ยก็สามารถประสบความสำเร็จในการปลูกลำไยขายได้แล้วสำหรับคนที่พอมีพื้นที่ว่างการปลูกลำไยเป็นงานพิเศษที่น่าสนใจและยังทำให้มีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สรรพคุณและประโยชน์น่ารู้ของ “ตำลึง”
สาระน่ารู้เกี่ยวกับตำลึง ตำลึง เป็นผักพื้นบ้านที่หาทานง่าย โดยเฉพาะตามต่างจังหวัด การเก็บยอดตำลึงขายเป็นรายได้เสริมที่ดีที่สุด และไม่ต้องลงทุนเพราะตำลึงสามารถขึ้นได้ทุกพื้นที่ เป็นผักที่คนส่วนใหญ่นิยมรับประทาน ไม่เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น ยังเป็นเมนูอาหารสำหรับเด็กเล็กๆอีกด้วย ตำลึง เป็นไม้เลื้อย ลำต้นเป็นเถาเนื้อแข็งมีมือยื่นออกมาจากข้อใช้สำหรับเกาะต้นไม้ใหญ่ การปลูกตำลึงเพื่อเก็บยอดขายเป็นรายได้เสริม นิยมทำหลักไม้ให้ตำลึงเกาะ เนื่องจากสะดวกในการเก็บยอดอ่อน นอกจากยอดอ่อนของตำลึงแล้ว ผลสุกยังเป็นอาหารที่ชื่นชอบของนก ตำลึงจึงเป็นพืชผักอีกชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นง่ายและเกิดขึ้นในทุกพื้นที่ สรรพคุณและประโยชน์ของตำลึง ตำลึง เป็นพืชที่ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ใบและยอดอ่อนให้พลังงานกับร่างกาย และยังมีผลงานการวิจัยระบุว่า ตำลึงช่วยรักษาโรคเบาหวานได้ โดยสารอาหารที่ได้จากตำลึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนั้นตำลึงยังมีสรรพคุณและประโยชน์ที่หลากหลาย ดังนี้ สรรพคุณทางยา ใบใช้ในการแก้ไข้ตัวร้อน ตาแดง เจ็บ เถาหรือต้น นำมาต้มใช้น้ำที่ได้จากการต้มหยอดตาแดง ตาฝางได้ ดอกตำลึงใช้ทำให้หายจากอาการคันได้ รากใช้แก้อาเจียน ส่วนน้ำยางจากต้นและใบ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ใบตำลึงเป็นยาเย็น ใช้ขยี้แล้วนำมาพอกแก้อาการคัน ประโยชน์ของตำลึง 1.นิยมนำใบและยอดอ่อนเป็นผักทานคู่กับน้ำพริก หรือใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลากหลายเมนู 2.ใบและน้ำคั้นช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง 3. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง 4.ใบตำลึงช่วยบำรุงน้ำนมแม่ 5.ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน 6.ผลอ่อนของตำลึงนำมาทานกับน้ำพริก หรือนำมาดอง ผลสุกมีรสหวานนิยมนำมาเลี้ยงสัตว์ เช่น นก หรือไก่ การเพาะพันธุ์ สำหรับการเพาะพันธุ์หรือปลูกตำลึง เพื่อเก็บยอดขายเป็นรายได้เสริม นิยมใช้เมล็ดจากผลแก่หยอดลงในหลุม โดยไม่ต้องไถพรวนดินเหมือนการปลูกพืชผักทั่วไป ตำลึงปลูกได้ดีในดินร่วนซุย หลังจากต้นกล้างอก ให้นำไม้หลักมาปักเพื่อให้ต้นตำลึงใช้เลื้อย หรือการปลูกโดยนำเถาแก่มาตัดให้ได้ขนาด 4-6 นิ้ว ปักลงในถึงเพาะชำ เมื่อออกรากและใบนำไปปลูกลงหลุม ทำเช่นเดียวกับการปลูกด้วยเมล็ด สรรพคุณและประโยชน์น่ารู้ของ “ตำลึง” ยังมีอีกหลายประการ สำหรับคนที่ชื่นชอบทำการเกษตรหากต้องการหารายได้เสริม การปลูกตำลึงเพื่อเก็บยอดขาย เป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจ และตำลึงยังเป็นผักที่ขายง่าย คนนิยมทาน เป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วยค่ะ
มะขามป้อมสมุนไพรไกล้ตัวสรรพคุณของมะขามป้อม
มะขามป้อม งานพิเศษทำที่บ้านสำหรับวันนี้ เป็นเรื่องของ “มะขามป้อม” คนรุ่นใหม่อาจไม่คุ้นเคยหรือบางคนอาจไม่รู้จักด้วยว่ามะขามป้อมคืออะไร วันนี้ eveleighmarket.com จะพามาทำความรู้จักมะขามป้อม สมุนไพรใกล้ตัว ว่ามีสรรพคุณและคุณประโยชน์อย่างไรกันบ้าง มะขามป้อม เป็นไม้ผลยืนต้นที่มีคุณค่าทางสมุนไพรและยังเป็นต้นไม้ ประจำจังหวัดสระแก้วซึ่งแพทย์แผนโบราณถือว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่จัดว่าเป็นโอสถในตัว เพราะพระภิกษุสามารถเก็บไว้ฉันท์ได้แม้ยามวิกาล ประโยชน์ของมะขามป้อม ประโยชน์ของมะขามป้อมนั้นมีมากมาย การเพราะกิ่งพันธุ์มะขามป้อม เป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่น่าสนใจ เนื่องจากในปัจจุบันมีการศึกษาแล้วพบว่า มะขามป้อมนั้นมีวิตามินซีสูงและวิตามินซีในมะขามป้อม ยังคงสภาพและมีคุณภาพไม่แตกต่างจากมะขามป้อมสด แม้จะถูกแปรสภาพทำให้แห้งหรือเก็บไว้ในความเย็นเป็นเวลานานๆทำให้มะขามป้อมถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของยาในหลายรูปแบบ สรรพคุณของมะขามป้อม ส่วนใบ มีรสฝาด และขม ใช้ต้มน้ำอาบช่วยลดไข้ ดอก มีรสหอมเย็น ใช้เข้ายาเย็น แก้ระบายท้อง ยางจากลำต้น มีรสเปรี้ยว ฝาด และขม รับประทานช่วยขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร เปลือกของลำต้น มีรสฝาดและขม ใช้สมานแผล ส่วนราก มีรสฝาดขม ใช้ต้มเป็นยาเย็น แก้ไอ แก้พิษไข้ ฟอกโลหิต ผลแก่ มีรสเปรี้ยว หวาน ขมและเผ็ด แก้ไอ แก้เสมหะ ช่วยให้ชุ่มคอลดไข้ ขับปัสสาวะ ระบายท้อง บำรุงหัวใจ และแก้โรคลักปิดลักเปิด ผลก่อน รสเปรี้ยว ฝาด และขม ทำให้ชุ่มคอ ทำให้เสียงไพเราะ บำรุงผิวพรรณ ผลแห้ง รสเปรี้ยว ฝาด ขม แก้ริดสีดวงทวาร แก้บิด แก้ท้องเสีย และช่วยย่อยอาหาร จากประโยชน์และสรรพคุณของมะขามป้อม ทำให้มีคนสนใจปลูกมะขามป้อมเป็นงานพิเศษทำที่บ้าน กันมากขึ้น โดยเฉพาะมะขามป้อมยักษ์ “แป้นไทรโยก” ต้นพันธุ์มีราคาแพงมากนอกจากขายต้นพันธุ์แล้ว คนที่หันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพยังนิยมบริโภคมะขามป้อมเป็นยาอีกด้วย มะขามป้อมนอกจากปลูกขายพันธุ์…