วิธีทำแหนมเห็ดนางฟ้าให้มีรสชาติอร่อยทำขายเป็นงานพิเศษ
ทำแหนมเห็ดขายเป็นงานพิเศษ สำหรับคนที่เพาะเห็ดนางฟ้าขายเป็นงานพิเศษ อาจมีปัญหาเห็ดขายไม่ทันหรือมีเห็ดเหลือจากการขาย หากไม่รู้ว่าจะนำเห็ดที่เหลือไปทำอะไรดี วันนี้ eveleighmarket.com มีสูตรและวิธีทำแหนมเห็ดนางฟ้ามาแนะนำ การทำแหนมเห็ดนางฟ้านอกจากจะเป็นการแปรรูป หรือถนอมอาหารแล้ว ยังเป็นงานพิเศษที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการมีอาชีพหรือมีรายได้เสริม เห็ดนางฟ้า เป็นพืชผักเศรษฐกิจที่คนนิยมนำมาทำอาหาร เพราะมีรสชาติอร่อยใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารได้หลากหลายเมนู และยังนิยมนำมาเพาะเพื่อเก็บดอกขายเป็นงานพิเศษทำเสริมไปกับงานประจำ หากขายไม่หมดก็ยังใช้ทำแหนมเห็ดนางฟ้าไว้ทานหรือนำไปขายได้อีกด้วย สำหรับสูตรและขั้นตอนการทำแหนมเห็นนางฟ้ามีรายละเอียด ดังนี้ ส่วนประกอบและวิธีทำแหนมเห็ดนางฟ้า ส่วนประกอบ 1.เห็ดนางฟ้าตัดโคนทิ้งแล้วฉีกเป็นเส้นเล็กๆตามยาว 500 กรัม 2.ข้าวเหนียวสุก 100 กรัม 3.กระเทียมโขลกละเอียด 50 กรัม 4.เกลือป่น 15 กรัม 5.พริกขี้หนูสวนเด็ดขั้ว วิธีทำแหนมเห็ดนางฟ้า 1.ลวกเห็นที่ฉีกไว้ในน้ำเดือดพอสุกแล้วพักไว้ให้เย็น 2.จากนั้นนำเห็ดที่พักไว้มาห่อด้วยผ้าขาวบางแล้วบีบน้ำออกให้แห้งสนิท 3.นำเห็ดที่บีบน้ำออกจนแห้งสนิทมาคลุกเคล้ากับกระเทียมโขลก เกลือป่นและข้าวเหนียวนึ่งสุก (ข้าวเหนียวต้องผึ่งให้เย็นก่อนนำมาคลุกเคล้ากับเห็ด) 4.ใส่พริก 1-2 เม็ดลงในถุงพลาสติก (ขนาดตามที่ต้องการ)นำเห็ดที่คลุกเคล้าไว้แล้วใส่ลงไป 5.ใช้อุ้งมือบีบให้เห็ดไปรวมอยู่ที่ก้นถุงด้านใดด้านหนึ่งให้เป็นรูปสามเหลี่ยมแล้วใช้ยางมัดให้แน่น 6.เก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง 2 วันก็เริ่มทานได้ 3 วันจะมีรสเปรี้ยวมากขึ้น
ขนมฝอยทองประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ
ขนมฝอยทองขนมมงคลที่นิยม การหารายได้พิเศษวันนี้ เป็นเรื่องขนมมงคลของไทยค่ะ ขนมมงคลอันดับหนึ่งที่นิยมใช้ ในงานมงคลหรืองานพิธีต่างๆของคนไทย ก็คือ “ฝอยทอง” เพราะนอกจากมีชื่อที่เป็นมงคล แล้วยังมีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ สีเหลืองทองสวยงามน่าทาน สำหรับสูตร หรือส่วนผสมในการทำอาจมีไม่มาก แต่ขั้นตอนการทำมีความประณีต ละเอียดอ่อนซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ ปัจจุบันขนมฝอยทอง หรือขนมมงคลชนิดอื่นๆ มีการบรรจุถาดโฟมเป็นแพ็คขาย ในช่วงเทศกาลวันสำคัญทางศาสนา เช่นวันเข้าพรรษา หรือวันออกพรรษาทำให้สะดวก สำหรับคนที่ต้องการนำมาขาย เพื่อหารายได้พิเศษ ขนมฝอยทองประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ขนมฝอยทอง ที่หลายคนรู้ดีว่าเป็นขนมมงคลของไทย แต่ eveleighmarket.com เชื่อว่าหลายคนไม่ทราบความเป็นมา และไม่รู้ว่า ฝอยทองไม่ใช่ขนมหวานของไทย ประวัติความเป็นมา ฝอยทอง เป็นขนมหวานของชาวโปรตุเกสโดยเข้ามาในประเทศไทย สมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลสมเด็ดพระนารายณ์มหาราช ซึ่งสยามประเทศได้เริ่มมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติชาวโปรตุเกส ก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่เข้ามาค้าขายกับคนไทย ซึ่งส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว ทำให้ภรรยาของชาวโปรตุเกสที่เข้ามาค้าขาย ได้สอนการทำฝอยทองให้กับคนไทยในยุคนั้น และได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน ในงานพิธีต่างๆของคนไทย มักจะถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมเพื่อความเป็นสิริมงคล เช่น งานทำบุญเลี้ยงพระ งานมงคลสมรส งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ หรืองานทำบุญวันเกิด นิยมนำขนมที่มีชื่อและลักษณะที่เป็นมงคลมาถวายพระ และเลี้ยงแขกที่มาในงานซึ่งขนมที่มีชื่อ และลักษณะที่เป็นมงคล เช่น ขนมฝอยทอง มีเส้นขนมที่ยาวแทนความหมายให้ครองคู่กันยืดยาวมีอายุยืน ขนมถ้วยฟู แทนความหมายของความเฟื่องฟูมั่งคั่ง ขนมทองเอก แสดงถึงความเป็นหนึ่งเป็นที่สุด ขนมชั้น แสดงถึงความก้าวหน้า การได้เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ขนมทองหยิบ แทนความหมายของความร่ำรวยที่ได้หยิบเงิน หยิบทอง หยิบของมีค่า ขนมทองหยอด แทนความหมายของการมีเงิน มีทอง ไม่รู้จักหมดสิ้น เม็ดขนุน แทนความหมายของการทำสิ่งใดมีแต่คนสนับสนุน ทำให้เจริญก้าวหน้า เสน่ห์จันทร์ แทนความหมายของการมีเสน่ห์เป็นที่รักของผู้ที่พบเห็น จ่ามงกุฎ แทนความหมายของความเจริญก้าวหน้า มียศถาบรรดาศักดิ์
วิธีทำยำเห็ดเข็มทองเมนูของคนชอบทานผัก
อาหารสุขภาพน่าทำขายเป็นรายได้เสริม เห็ดเข็มทอง เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่ให้โปรตีนสูงและปราศจากไขมัน สามารถนำมาประกอบอาหารทาน หรือทำขายเพื่อหารายได้เสริมได้หลากหลายเมนู “ยำเห็ดเข็มทอง” เป็นอีกหนึ่งเมนูอร่อย ที่ทานเป็นอาหารคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เป็นอาหารว่างทานเพื่อควบคุมน้ำหนัก หรือเป็นเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย ในงานเลี้ยงสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูงในวาระโอกาสต่างๆ ก็น่าสนใจนะคะ สำหรับคนที่มีฝีมือและทำอาหารขาย หารายได้เสริมอยู่แล้วจะนำ “ยำเห็ดเข็มทอง” ไปเป็นเมนูเด็ดของร้าน eveleighmarket.com มีวิธีทำมาฝากค่ะ เครื่องปรุงและวิธีทำยำเห็ดเข็มทอง เครื่องปรุง 1.เห็ดเข็มทองตัดส่วนโคนทิ้ง 300 กรัม 2.แครอทหั่นฝอย 50 กรัม 3.เนื้อหมูบด 100 กรัม 4.ปลาหมึกสดหั่นเป็นแว่นๆ 1-2 ตัว 5.กุ้งสดแกะเปลือกผ่าหลัง 100 กรัม 6.น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำกระเทียมดอง 2 ช้อนโต๊ะ 8.กระเทียมแกะเปลือก 10 กลีบ 9.พริกขี้หนูสวน 15 เม็ด 10.หอมหัวใหญ่ซอย 1 หัว 11.ต้นหอม 5 ต้น ตัดท่อน 12.ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 3 ต้น 13.น้ำตาลปีบ ½ ช้อนโต๊ะ 14.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 15.น้ำปลาดี 1 ½ ช้อนโต๊ะ วิธีทำยำเห็ดเข็มทอง 1.นำเห็ดเข็มทองลวกในน้ำเดือดแล้วพักไว้ 2.ลวกปลาหมึกสด กุ้งสด ในน้ำเดือดแล้วพักไว้ 3.รวนหมูบดพอสุกแล้วพักไว้ 4.ทำน้ำยำโดยนำพริกขี้หนูสวน น้ำกระเทียมดอง กระเทียม น้ำตาลทราย น้ำตาลปีบ และน้ำตาลทรายใส่ในโถปั่น ปั่นละเอียดตามต้องการ…
วิธีทำสเต็กหมูอาหารสไตล์ฝรั่งเศส
ขายอาหารจานด่วนเป็นรายได้เสริม การหารายได้เสริมจากการขายอาหารจานด่วน หรืออาหารจานเดียวเป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งนอกจากอาหารไทยยอดนิยมอย่างเช่น ข้าวผัด ข้าวผัดกระเพราไข่ดาวหรือเมนูอาหารจานด่วนอื่นๆแล้ว อาหารสไตล์ฝรั่งเศส อย่างเช่นสเต๊กหมูก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนไทยนิยมทานถึงแม้สเต็กจะเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศสแต่ก็มีวิธีทำที่ไม่ยุ่งยาก หลายคนนอกจากทำทานเองแล้วยังเป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่ช่วยให้มีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นอีกด้วย เครื่องปรุงและวิธีทำสเต็กหมู วิธีทำสเต็กหมูมีหลายสูตร แต่ที่ eveleighmarket.com แนะนำในวันนี้เป็นสเต๊กหมูแบบง่ายๆที่มีเครื่องปรุงและขั้นตอนการทำไม่ยุ่งเหมาะสำหรับทำขายหารายได้เสริมหรือทำทาน เรามาดูรายละเอียดเครื่องปรุงและขั้นตอนการทำเลยค่ะ เครื่องปรุงและวิธีทำสเต็กหมู เครื่องปรุง 1.เนื้อหมู สันนอก หรือสันคอหมู 400 กรัม 2.กระเทียมกลีบเล็ก 5 กลีบ 3.พริกไทยเม็ด 15 เม็ด 4.ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 6.น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ 7.นมสด 1 ช้อนโต๊ะ 8.สับปะรด 2 ชิ้นเล็ก 9.ผักสลัด เช่น หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศสีดา ข้าวโพดหวาน มันฝรั่ง กะหล่ำ แครอท ผักกาดหอม หรือผักอื่นๆตาม ชอบ 10.ฮอทดอกขนาด 4 นิ้ว 2 ชิ้น 11.เนย 1 ก้อนเล็ก หรือน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำสเต็กหมู 1.ล้างเนื้อหมูให้สะอาดแล้วพักไว้ 2.โขลกพริกไทยกับกระเทียมให้ละเอียดแล้วนำมาหมักหมู ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาล น้ำมันหอย นมสด และเพิ่มความนุ่มด้วยสับปะรด หมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง 3.ระหว่างหมักหมู จัดผักสลัดโดยนำมาล้างทำความสะอาดแล้วแช่น้ำผสมน้ำส้มสายชู หรือแช่น้ำแข็งไว้ 20…
วิธีทำขนมเทียนไส้เค็มการทำแป้งและทำไส้ขนมเทียน
ทำขนมขายเป็นรายได้เสริม ขนมเทียน เป็นขนมมงคลอีกหนึ่งอย่างที่ใช้เป็นขนมไหว้ในวันตรุษจีน เพราะมีความหมายสื่อถึงความหวานชื่น ความราบรื่นและอุดมสมบูรณ์ ขนมเทียนมีทั้งไส้เค็มและไส้หวาน นอกจากใช้สำหรับเป็นของเซ่นไหว้ในวันตรุษจีนแล้ว ยังเป็นขนมที่นิยมทำขายเป็นการหารายได้เสริม โดยมีการปรับเปลี่ยนจากใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นแป้งถั่วเขียว แป้งข้าวเหนียวดำ หรือเปลี่ยนจากการใช้ใบตองห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมมาใช้ใส่ในกระทงใบตองแทน สำหรับคนที่สนใจทำขนมเทียนขายหารายได้เสริม วันนี้ eveleighmarket.com มีวิธีทำขนมเทียนไส้เค็มมาแนะนำอีกเช่นเคยค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำขนมเทียนไส้เค็ม ส่วนผสมขนมเทียนไส้เค็ม 1.ถั่วเขียวผ่าซีกเลาะเปลือก 300 กรัม 2.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ 3.น้ำตาลทราย 70 กรัม 4.หอมแดงซอย 10 หัว 5.เกลือป่น 1 ช้อนชา 6.พริกไทยป่น 2 ช้อนชา วิธีทำขนมเทียนไส้เค็ม 1.นำถั่วไปแช่น้ำประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากนั้นล้างให้สะอาดแล้วนำไปนึ่งจนสุก 2.โขลกถั่วที่ต้มแล้วให้ละเอียด 3.ตั้งกระทะใช้ไฟกลางเจียวหอมที่ซอยไว้พอเหลือง ใส่ถั่วที่โขลกไว้ลงไปผัด เติมน้ำตาล เกลือป่น และพริกไทย ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันชิมรสตามชอบผัดจนแห้ง 4.นำไส้ที่ผัดมาปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วพักไว้ เพื่อทำไส้ ส่วนผสมตัวแป้ง 1.แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม 2.น้ำตาล 250 กรัม 3.กะทิ 3 ถ้วยตวง วิธีทำแป้งขนมเทียน 1.เทแป้งข้าวเหนียวใส่ในภาชนะ ค่อยๆผสมน้ำตาลให้เข้ากับแป้งแล้วเทกะทิใส่ลงไปนวดกับแป้งจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วพักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง 2.ตัดใบตองให้มีขนาดเท่าๆกัน ใช้กรรไกรตัดด้านปลายให้มีลักษณะมลแล้วเช็ดให้สะอาด หากทำใส่กระทงให้ตัดเป็นลงกลมแล้วนำมาเย็บเป็นกระทงใบเล็กๆ 3.ทาน้ำมันให้ทั่วใบตอง แล้วนำมาทำเป็นกรวยสามเหลี่ยมให้ด้านที่ตัดปลายอยู่ด้านบน 4.ตักแป้งใส่ลงในกรวย จากนั้นนำไส้ที่ปั้นเป็นก้อนไว้วางลงบนแป้ง 5.พับใบตองปิดแป้งที่มีไส้ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดไว้แล้วพับใบตองที่อยู่ด้านซ้ายและด้านขวามือมาทับกัน จากนั้นนำด้านที่มีปลายมลพับสอดปลายเข้าไปที่รอยพับ 6.หากทำใส่กระทงใบตองให้ตักแป้งใส่ลงในกระทงเล็กน้อยแล้วนำไส้วางลงบนแป้ง จากนั้นตักแป้งหยอดให้ท่วมไส้ขนมจนเต็มกระทงเรียงลงในลังถึงพร้อมนึ่ง 7.ใส่น้ำในลังถึงแล้วนำไปตั้งไฟจนเดือน จากนั้นนำชั้นลังถึงที่ใส่ขนมเทียนไว้มานึ่งจนสุก