วิธีทำเค้กนมสดกับเคล็ดลับที่น่ารู้
เค้กนมสดกับเคล็ดลับที่น่ารู้ ขนมเค้ก เป็นขนมประเภทอบที่มีหลายรูปแบบ ส่วนผสมหลักๆได้แก่ แป้ง น้ำตาล ไข่ และไขมัน ปัจจุบันเค้กที่กำลังได้รับความนิยมได้แก่ เค้กนมสด ซึ่งมักจะทานคู่กับเครื่องดื่มประเภทชานม กาแฟ หรือเครื่องดื่มน้ำผลไม้ต่างๆ สำหรับคนที่สนใจการหารายได้เสริมทำที่บ้าน นอกจากการเรียนรู้สูตรและส่วนผสมในการทำเค้กชนิดต่างๆแล้ว เคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับการทำเค้กก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ได้สูตรเค้กนมสดที่อร่อยและแตกต่างเหมาะสำหรับการหารายได้เสริมทำที่บ้าน วิธีทำเค้กนมสด กับเคล็ดลับที่น่ารู้ สำหรับมือใหม่ที่ต้องการหารายได้เสริมทำที่บ้าน การทำเค้กนมสดให้อร่อย ถึงแม้จะมีสูตรและอัตราส่วนผสมที่เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ก็ยังมีเคล็ดลับที่ควรรู้ ดังนี้ 1.ก่อนตวงแป้งหรือใช้วิธีชั่ง ต้องนำแป้งมาร่อนก่อนทุกครั้ง เพื่อให้อากาศเข้าแทรกระหว่างเนื้อแป้ง ทำให้แป้งฟูและบา 2.ถ้าต้องการให้เนื้อเค้กเบานิ่มให้เติมน้ำเดือด 1 ช้อนโต๊ะ ลงในส่วนผสมก่อนนำเข้าเตาอบ 3.การเติมไข่หรือส่วนผสมที่เป็นของเหลวควรค่อยๆ เติมลงไปทีละน้อยหรือแบ่งเติมไปทีละส่วน ไม่ควรใส่หมดในทีเดียว ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมันแยกตัวออกจากส่วนผสม 4.ไข่ที่เหมาะสำหรับทำเค้กเนยสด ควรเป็นไข่ไก่สดและไม่ต้องแช่ตู้เย็น 5.นมที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในการทำเค้ก ได้แก่ นมสด นมข้นจืด และนมผง 6.การแต่งกลิ่น เป็นการทำให้เค้กมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน การเลือกใช้กลิ่นรส ควรเลือกให้เหมาะสมกับชนิดของเค้กที่ทำ สาเหตุและลักษณะของเค้กที่ต้องแก้ไข 1.หากเค้กที่นำไปอบแล้ว หน้าไม่เรียบ ฟู และแตก วิธีแก้ไข ได้แก่การใช้ที่ปาดหน้าเค้กแตะน้ำมันพืชแล้วทาลงบนเนื้อเค้กก่อนนำเข้าเตาอบ 2.เค้กที่อบแล้วผิวหน้าแฉะ เป็นเพราะอบไม่สุกดี วิธีแก้ปัญหาต้องตรวจสอบอุณหภูมิของเตาอบและควรอบให้สุก 3.การอบแล้วได้เนื้อเค้กที่แห้ง สาเหตุเกิดจากการตีไข่ขาวนานเกินไป หรืออบเค้กนานเกินไป วิธีแก้ปัญหาควรตรวจสอบอุณหภูมิในการอบอย่างถูกต้องและตีไข่ขาวถึงจุดที่ต้องการเท่านั้น 4.เค้กที่อบแล้วหน้าเค้กยุบตรงกลาง สาเหตุเกิดจากการใช้อุณหภูมิในการอบไม่ถูกต้อง อาจใช้ไฟอ่อนหรือแรงเกินไป หรืออาจเปิดเตาอบขณะเค้กกำลังขึ้นและการใส่น้ำตาลมากเกินไปก็ทำให้หน้าเค้กยุบได้เช่นกัน การทำเค้กนมสด หรือเค้กสูตรอื่นๆโดยเฉพาะการทำขายหารายได้เสริมทำที่บ้าน ต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์จะช่วยให้มีข้อผิดพลาดน้อยลงและยังสามารถพัฒนาปรับปรุงสูตรให้มีเอกลักษณ์เป็นของเราได้อีกด้วย
วิธีถนอมมะขามเปียกไม่ให้เป็นสีดำประโยชน์ของมะขามเปียก
มะขามเปียก “มะขามเปียก” ถือเป็นการถนอมอาหารอย่างหนึ่ง เพราะประโยชน์ของมะขามเปียกนั้นมีมากมาย นอกจากใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับปรุงรสชาติอาหาร มะขามเปียกยังเป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์ มะขามฝักแก่ที่มีรสเปรี้ยวยังมีราคาถูกเหมาะสำหรับนำมาหารายได้เสริมทำที่บ้าน วันนี้เรามีวิธีเก็บมะขามเปียกไม่ให้เปลี่ยนสีมาแนะนำ ค่ะ มะขาม เป็นไม้ผลที่เราพบเห็นได้ทั่วไปมี 2 ชนิด คือ มะขามที่มีรสเปรี้ยวและมะขามหวาน การปลูกมะขามนิยมปลูกมะขามหวานเพราะเป็นไม้ผลเศรษฐกิจ เนื่องจากมีราคาแพงและนิยมรับประทานส่วนดีคือเก็บไว้ได้นาน ส่วนมะขามเปรี้ยวจะปลูกไว้ตามแนวรั้วหรือเขตแดนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนอกจากเป็นแนวรั้งหรือให้ร่มเงาแล้ว มะขามเปรี้ยวยังนำมาหารายได้เสริมทำที่บ้านได้เกือบจะทุกส่วนของลำต้น เช่น ลำต้นใช้ทำเขียงไม้มะขามที่ ใบอ่อนนำมาปรุงอาหารประเภทต้มเพิ่มรสชาติให้จัดจ้าน ฝักอ่อนนำมาตำน้ำพริก ส่วนฝักแก่นำมาถนอมอาหารเป็นผลไม้แช่อิ่ม และทำเป็นมะขามเปียก ส่วนของฝักแก่ที่นำมาทำเป็นมะขามเปียก เหมาะสำหรับนำมาหารายได้เสริมทำที่บ้าน เพราะสามารถเก็บไว้ได้นานแต่หากเก็บไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดเชื้อรา เกิดมอดมะขาม และทำให้มะขามเปียกมีสีดำไม่น่าทาน สำหรับการเก็บมะขามเปียกที่ถูกต้องควรเก็บด้วยวิธีต่อไปนี้ วิธีเก็บมะขามเปียกไม่ให้เป็นสีดำ 1.วิธีเก็บมะขามเปียกไม่ให้มีสีดำ ให้นำมะขามเปรียวฝักแก่มาแกะเปลือกแล้วเมล็ดออก เพื่อป้องกันการเกิดมอดมะขาม 2.จากนั้นนำเฉพาะเนื้อมะขามมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ หรือบีบให้แน่น 3.บรรจุลงในภาชนะที่ไม่ใช่อะลูมิเนียม นำเกลือเม็ดมาโรยไว้ด้านบน จากนั้นปิดฝาภาชนะให้แน่น เก็บไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่ในตู้เย็น 4.หรือนำมะขามเปียกที่ได้เก็บไว้ในถุงพลาสติกรัดปากถุงให้แน่น เก็บไว้ได้นานโดยสีมะขามไม่เปลี่ยน ประโยชน์ของมะขามเปียก 1.นำมาคั้นเอาเฉพาะน้ำใช้ปรุงรสชาติอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น แกงส้ม ส้มตำ ต้มแซบ ต้มยำ และเมนูอื่นๆ 2.ทำเป็นน้ำมะขามเปียก มีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ แก้ไอ และใช้เป็นยาระบาย แก้อาการท้องผูก 3.น้ำมะขามเปียกใช้บำรุงผิวพรรณ เช่น ใช้พอกหน้าหรือขัดผิวพรรณ และยังใช้เป็นส่วนผสมในสูตรต่างๆอย่างเช่นผสมกับโยเกิร์ตหรือน้ำผึ้ง ทำเป็นครีมมะขามเปียกใช้พอกหน้า เพื่อลดริ้วรอยต่างๆ การหางานหารายได้เสริมทำที่บ้าน ที่หลายคนกำลังมองหาเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นไม่ใช่เรื่องยากนะคะ เพียงมองสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา แล้วรู้จักนำสิ่งเหล่านั้นมาเพิ่มมูลค่า ก็ทำให้เรามีงานมีรายได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว
วิธีทำต้มเลือดหมูอาหารจานด่วนทานร้อนๆ
เมนูอาหารยอดนิยมต้มเลือดหมู ต้มเลือดหมู เมนูอาหารยอดนิยมที่เป็นได้ทั้งอาหารเช้าและอาหารจานด่วนทานร้อนๆได้ทุกเวลา เป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหารายได้เสริมทำที่บ้าน จะเปิดร้านขายคู่กับข้าวสวยร้อนๆหรือขายเฉพาะต้มเลือดหมูเพื่อให้ลูกค้าซื้อไปทาน เป็นกับข้าวที่บ้านก็ทำไม่ยากค่ะใครที่สนใจต้องการทำต้มเลือดหมูขายหารายได้เสริมทำที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาไปหาสูตรและวิธีทำให้ยุ่งยากเพราะวันนี้ eveleighmarket.com มีวิธีทำต้มเลือดหมูสูตรเด็ดมาแนะนำค่ะ สูตรและวิธีทำต้มเลือดหมู ส่วนประกอบน้ำซุป 1.หัวไชเท้า 500 กรัมปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาๆ 2.กระดูกหมู 1000 กรัม 3.เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำเปล่า 5.พริกไทยเม็ดบุบ 2 ช้อนชา 6.กระเทียม 5 กลีบ 7.รากผักชีทุบ 5-6 ราก 8.ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 9.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา วิธีทำน้ำซุป 1.ล้างกระดูกหมูให้สะอาดแล้วพักไว้ 2.ตั้งน้ำให้ร้อน ใส่รากผักชี กระเทียม และพริกไทยบุบลงไป รอจนน้ำเดือดใส่กระดูกหมูลงไปต้ม หมั่นช้อนฟองทิ้งพอน้ำเดือดอีกครั้งใส่หัวไชเท้า ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย เกลือป่น ตั้งต่อสักครู่แล้วหรี่ไฟใช้ไฟอ่อนเคี่ยวกระดูกหมูและน้ำซุปต่อประมาณ 1 -2 ชั่วโมง ส่วนผสมต้มเลือดหมู 1.เนื้อหมูบด 300 กรัม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทราย น้ำปลา พริกไทยป่น และน้ำสะอาดเล็กน้อย นวดให้ส่วนผสมเข้ากับเนื้อหมูแล้วหมักทิ้งไว้ 2.เลือดหมู 2 ก้อนหั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วนำไปลวกน้ำร้อนพักไว้ 3.ตับหมูหั่นเป็นชิ้นบางๆลวกสุก 300 กรัม 4.กระเพาะหมูต้ม หั่นเป็นชิ้น 300 กรัม 5.ไส้อ่อนต้มสุกหั่นเป็นท่อนๆพอคำ 300 กรัม 6.ตำลึง ผักกาดหอม ผักกาดขาว (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งตามชอบ) 7.ขึ้นฉ่าย…
วิธีทำขนมดอกจอกขนมไทยโบราณ
ทำขนมไทยโบราณขาย หารายได้เสริมทำที่บ้าน หารายได้เสริมทำที่บ้านวันนี้เป็นเรื่องของขนมดอกจอก ขนมไทยโบราณที่นอกจากกรอบอร่อยแล้วยังเป็นขนมที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นขนมไทย คือมีความประณีต รูปทรงสวยงามน่าทานแต่ปัจจุบันหาทานยาก ขนมดอกจอกมีส่วนผสมและวิธีการทำง่ายๆและใช้เงินลงทุนไม่มากสำหรับคนที่ต้องหารายได้เสริมทำที่บ้านเพียงอ่านสูตรส่วนผสมและทำตามขั้นตอนก็สามารถทำขายได้แล้ว สูตรส่วนผสมและวิธีทำขนมดอกจอก ส่วนผสม 1.แป้งสาลี 300 กรัม 2.แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม 3.แป้งมัน 120 กรัม 4.กะทิ 100 กรัม 5.ไข่แดง 2 ฟอง 6.งาดำ 30 กรัม 7.น้ำมันพืชสำหรับผสมแป้ง 120 กรัม 8.น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ลิตร 9.เกลือป่น ½ ช้อนชา 10.น้ำปูนใส 500 กรัม 11.น้ำตาลทราย 300 กรัม อุปกรณ์สำหรับทำขนมดอกจอก 1.พิมพ์ขนม 1-2 อัน 2.ถ้วยกลมๆ 1 ใบ วิธีทำขนมดอกจอก 1.น้ำแป้งทั้ง 3 ชนิดมาร่อนรวมกัน 1 ครั้ง 2.ผสมน้ำตาลทราย กะทิ ไข่แดง เกลือป่น และน้ำปูนใสกับแป้งที่ร่อนไว้คนส่วนผสมให้เข้ากัน 3.ใส่น้ำมันพืชและงาดำ ลงไปในแป้งและส่วนผสม 4.ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อนให้แช่พิมพ์ลงในน้ำมัน 5.เมื่อพิมพ์เริ่มร้อนให้ยกขึ้นแล้ววางบนกระดาษซับมัน ก่อนนำลงไปจุ่มในแป้ง ลักษณะการจุ่มพิมพ์ลงในกระทะให้จุ่มลงไปประมาณ ¾ของพิมพ์ 6.พอแป้งเริ่มเหลืองให้กดพิมพ์ลงไปที่ก้นกระทะ เขย่าพิมพ์เบาๆเพื่อให้แป้งกับพิมพ์หลุดออกจากกันแล้วทอดต่อจนแป้งเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน 7.ตักขนมขึ้นจากน้ำมันแล้ววางลงบนก้นถ้วย เพื่อให้ขนมมีลักษณะบานสวย รอจนสะเด็ดน้ำมันและหายร้อน บรรจุใส่ภาชนะหรือถุงปิดปากให้สนิทเพื่อไม่ให้ถูกลม
ส่วนประกอบวิธีทำขนมกระยาสารทเคล็ดลับความอร่อย
ทำขนมขายเป็นรายได้เสริม วิธีหารายได้เสริมทำที่บ้านวันนี้ เป็นเรื่องของ กระยาสารท ขนมหวานของไทยที่ทำจากน้ำตาล ถั่ว งา และข้าวตอกหรือข้าวคั่วในอดีตนิยมทำกันมากในช่วงเทศกาลวันสารทแต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรและรูปแบบการทำกระยาสารทเพื่อให้เหมาะ กับการทำเป็นขนมหวานขายในทุกๆเทศกาล บางท้องถิ่นยังนำมาเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนโดยให้คนในท้องถิ่นร่วมกันทำขายเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านจนมีชื่อเสียงและกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ สำหรับคนที่สนใจหรือต้องการทำเป็นงานพิเศษเพื่อหารายได้เสริมที่บ้านการทำกระยาสารทขายมีรายละเอียดและขั้นตอนการทำดังนี้ ส่วนประกอบและวิธีทำขนมกระยาสารท ส่วนประกอบ 1.ข้าวตอก 200 กรัม 2.ข้าวเม่า 1 กิโลกรัม 3.ถั่วลิสงคั่ว 3 กิโลกรัม 4.งาคั่ว 500 กรัม 5.น้ำตาลปีบ 2.5 กิโลกรัม 6.น้ำกะทิ 2 กิโลกรัม 7.แบะแซ 2 กิโลกรัม วิธีทำขนมกระยาสารท 1.ใช้กระทะใบบัวใหญ่ๆสำหรับการกวนกระยาสารท โดยนำกะทิ น้ำตาลปีบ และแบะแซ ใส่ในกระทะตั้งไฟใช้เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 2.จากนั้นใส่ข้าวเม่า ข้าวตอก งาคั่ว และถั่วลิสงที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยใช้ไฟอ่อนๆเมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วยกลงพักไว้ให้เย็น 3.นำใส่ภาชนะเก็บไว้ทานได้นาน หากทำขายอาจใส่ถาดแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆตามที่เราต้องการ จากนั้นบรรจุในภาชนะหรือถุงพลาสติกรัดปาก พร้อมขาย เคล็ดลับความอร่อย การทำกระยาสารมีวิธีการทำไม่ยุ่งยาก แต่มีหลายขั้นตอนซึ่งเริ่มตั้งแต่การคั่วถั่วลิสงแล้วเอาเปลือกออก การคั่วข้าวตอก การทำข้าวเม่า และการเคี่ยวน้ำตาล ซึ่งในแต่ละขั้นตอนมีความสำคัญทั้งหมดการทำต้องใช่ความอดทนและมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมากการทำกระยาสารทถึงแม้จะใช้สูตรเดียวกันส่วนประกอบต่างๆใช้ในอันตราส่วนที่เท่ากันแต่ทำออกมาแล้วได้รสชาติความอร่อยที่แตกต่างกัน เป็นเพราะความประณีตและความละเอียดอ่อนในการทำค่ะ