ปลูกข้าวโพดหวานรายได้เสริมทำที่บ้าน ข้าวโพดหวานเป็นพืชเศรษฐกิจที่ปลูกได้ทุกฤดูกาลตลาดมีความต้องการตลอดทั้งปีเพราะนอกจากนำมาต้มหรือย่างขายแล้ว ข้าวโพดหวานยังสามารถนำมาทำขนมหรือใช้เป็นส่วนประกอบในขนมไทยๆได้หลากหลายชนิด การปลูกข้าวโพดหวานถึงแม้จะปลูกได้ตลอดทั้งปีแต่การปลูกเพื่อเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้าน ผู้เขียนแนะนำให้ปลูกในช่วงฤดูฝนเพราะการปลูกข้าวโพดหวานต้องเอาใจใส่ดูแลทั้งการใส่ปุ๋ยและกำจัดวัชพืชเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ได้ข้าวโพดหวานฝักใหญ่และไม่มีแมลงรบกวน วิธีการปลูกข้าวโพดหวาน การปลูกข้าวโพดหวาน ข้าวโพดหวานเป็นพืชที่มีอายุสั้นหลังปลูกประมาณ 70-75 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ สายพันธุ์ที่นิยมปลูกและตลาดมีความต้องการสูงได้แก่ ข้าวโพดหวานพันธุ์ซุปเปอร์สวิท ข้าวโพดข้าวเหนียว และข้าวโพดเทียน สำหรับการปลูกข้าวโพดหวานเป็นงานเสริมหรือปลูกเพื่อหารายได้เสริมทำที่บ้านควรเลือกปลูกพันธุ์ซุปเปอร์สวีทเพราะนอกจากต้มขายได้แล้วยังนำไปเป็นส่วนประกอบในขนมหวานไทยๆได้หลากหลายประเภท การปลูกข้าวโพดหวานเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านที่มีรายได้จากการเก็บผลผลิตหรือขายข้าวโพดฝักแล้ว ส่วนของลำต้นยังขายเป็นอาหารสัตว์ให้กับเกษตรกรนำไปเลี้ยงวัวได้อีก ส่วนวิธีการขั้นตอนการปลูกและการบำรุงรักษา การกำจัดแมลงและวัชพืชตลอดจนขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิต ผู้เขียนแนะนำให้ศึกษาข้อมูลจากหนังสือหรือแหล่งความรู้เกี่ยวกับการเกษตรโดยตรงเนื่องจากมีรายละเอียดและข้อมูลมากจะทำให้ได้รับข้อมูลและรายละเอียดที่ครบถ้วนค่ะ สำหรับเคล็ดลับหรือวิธีต้มข้าวโพดให้อร่อยมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ดังนี้ วิธีต้มข้าวโพดให้อร่อย วิธีที่หนึ่ง ให้นำข้าวโพดมาต้มทั้งเปลือกใส่น้ำให้ท่วมฝักข้าวโพดปิดฝาหม้อ ไม่ต้องใส่เกลือนะค่ะเมื่อต้มสุกแล้วให้นำฝักข้าวโพดแช่ในน้ำเกลือที่ละลายไว้แล้วนำขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำก็จากนั้นก็นำไปขายได้ วิธีที่สอง เป็นการต้มข้าวโพดแบบไม่มีเปลือกให้ใส่น้ำในหม้อที่จะต้มแล้วนำไปตั้งไฟใช้ไฟแรง พอน้ำเดือดให้เรียงฝักข้าวโพดลงไปในหม้อเติมเกลือลงไปเล็กน้อย ข้าวโพดสุกง่ายใช้เวลาต้มเพียง 3-5 นาทีก็จะได้ข้าวโพดสุก สีสวยเมล็ดเต่งน่าทาน

หารายได้เสริมทำที่บ้านปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวขาย การหารายได้เสริมทำที่บ้านสำหรับคนที่มีงานประจำหรือมีอาชีพหลักอยู่แล้วแต่ต้องการมีอาชีพสำรองหรือมีรายได้เสริมทำที่บ้านเพิ่มอีกหนึ่งอาชีพหากคุณมีพื้นที่ว่างและชอบทำการเกษตรวันนี้ผู้เขียนมีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวมาแนะนำค่ะ ข้าวโพดข้าวเหนียว เป็นข้าวโพดที่นิยมทานในท้องถิ่นซึ่งแตกต่างจากข้าวโพดหวานและข้าวโพดอ่อนที่ถือว่าเป็นข้าวโพดฝักสดหรือพืชเศรษฐกิจที่ตลาดมีความต้องการคนจึงนิยมปลูกมากกว่าข้าวโพดข้าวเหนียว ข้อดีในการปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านเพราะมีคนปลูกน้อย ราคาดีไม่แตกต่างจากข้าวโพดหวานและยังมีคู่แข่งน้อยทำให้ราคาคงที่ไม่ขึ้นหรือลงในช่วงที่มีผลผลิตออกมาพร้อมๆกัน ข้าวโพดข้าวเหนียวปลูกได้ตลอดทั้งปีในช่วงฤดูแล้งหากอยู่ใกล้แหล่งน้ำสามารถปลูกปลูกแบบรดน้ำได้ทำให้ได้ราคาดี วิธีปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว ขั้นตอนการเตรียมดิน 1.ไถครั้งแรกแล้วตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ควรหว่านปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน 1-2 ตันต่อไร่ 2.ไถครั้งที่2 เพื่อย่อยดินให้เหมาะสำหรับยกแปลงปลูก และครั้งที่3 เป็นการยกร่องสำหรับปลูก ขั้นตอนการปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวมี 2 แบบคือ 1.ปลูกแบบยกร่องให้ชักร่องกว้าง 120 ซม. แล้วปลูกข้าวโพดหวานบนสันร่องโดยหยอดเมล็ดข้าวโพดหลุมละ 3-4 เมล็ด ลักษณะให้เมล็ดกระจายห่างกันเล็กน้อยไม่หยอดรวมเป็นกระจุก ระยะห่างระหว่างหลุม 30 ซม. 2.ปลูกแบบแถวเดี่ยว ให้ระยะแถวห่างกัน 75 ซม. ระยะห่างระหว่างหลุม 30 ซม. ขั้นตอนการใส่ปุ๋ยรดน้ำและเก็บเกี่ยข้าวโพดข้าวเหนียว 1.การใส่ปุ๋ยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือใส่รองพื้นด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เป็นการลดต้นทุน และใส่ปุ๋ยแต่งหน้าอีก 2 ครั้งเมื่อต้นข้าวโพดอายุได้ 25-30 วันและ 40-45 วัน 2.หากปลูกในช่วงฤดูแล้วให้รดน้ำทุก 7 วัน 3.ระยะการเก็บเกี่ยวเมื่ออายุข้าวโพดได้ 70-75 วัน ให้สังเกตที่ไหมของข้าวโพดซึ่งจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม หากปลูกในดินไม่มากประมาณ 1 ไร่หรือน้อยกว่านั้นก็สามารถเลือกเก็บข้าวโพดที่แก่จัดต้มขายเองหรือเก็บขายส่งตลาดได้เรื่อยๆ ข้าวโพดดิบราคากิโลกรัมละ 10 บาท ส่วนข้าวโพดต้มส่วนใหญ่ขาย 3 ฝัก 20 บาท ข้าวโพดข้าวเหนียวจะได้ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 1600 กก/ไร่ เป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านที่น่าสนใจ

น้ำจิ้มสุกี้ขายส่งเป็นรายได้เสริมทำที่บ้าน รายได้เสริมทำที่บ้านที่ผู้เขียนนำมาแนะนำในวันนี้เป็นสูตรและวิธีทำน้ำจิ้มสุกี้ค่ะ เนื่องจากเมนูอาหารที่นิยมทำทานเมื่อมีงานเลี้ยงสังสรรค์ในกลุ่มพี่น้องหรือกลุ่มเพื่อนในโอกาสหรือเทศกาลต่างๆ ส่วนใหญ่ก็คือสุกี้หม้อไฟเพราะเป็นอาหารร้อนๆที่ทานง่าย ปัจจุบันยังสะดวกสบายไม่ต้องหมักเนื้อหมูเนื้อไก่ให้ยุ่งยากเพราะมีแบบหมักสำเร็จขายเป็นขีดหรือเป็นกิโลให้เราเลือกซื้อได้ตามใจชอบ แต่ส่วนสำคัญที่จะทำให้สุกี้หม้อไฟอร่อยถูกปากถูกใจคนทานก็คือน้ำจิ้มสุกี้ ถึงแม้จะมีน้ำจิ้มสุกี้แบบปรุงสำเร็จขายก็อาจจะเป็นรสกลางๆไม่จัดจ้านอย่างที่หลายคนต้องการ สูตรน้ำจิ้มสุกี้หากมีฝีมือและปรุงได้รสชาติยังสามารถทำขายเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านได้ด้วย สูตรและวิธีทำน้ำจิ้มสุกี้ทำอย่างไรให้แซปจัดจ้าน น้ำจิ้มสุกี้มีหลายสูตรความแตกต่างขึ้นอยู่กับส่วนประกอบและเครื่องปรุง ส่วนขั้นตอนการทำไม่แตกต่างกันนักสำหรับคนที่ต้องการทำน้ำจิ้มสุกี้ขายเพื่อเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านต้องปรับปรุงสูตรและรสชาติให้มีความอร่อยที่แตกต่างเป็นสูตรเฉพาะของตนเองซึ่งอาจต้องฝึกและทดลองทำจนได้รสชาติที่ต้องการ สูตรน้ำจิ้มสุกี้และวิธีทำมีส่วนผสมและขั้นตอนการทำโดยรวมดังนี้ สูตรและวิธีทำน้ำจิ้มสุกี้ทำอย่างไรให้แซปจัดจ้าน ส่วนผสม 1.เต้าหู้ยี้ 6 ก้อน 2.ซอสมะเขือเทศ ½ ถ้วยตวง 3.ซอสพริกศรีราชา 1 ขวด 4.น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำมันงา ½ ถ้วยตวง 6.ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 7.น้ำมันหอย ½ ถ้วยตวง 8.น้ำกระเทียมดอง ½ ถ้วยตวง 9.น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 10.กระเทียม 10 กลีบ 11.พริกขี้หนูสีแดง 10-15 เม็ด 12.งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำน้ำจิ้มสุกี้ 1.นำส่วนผสมทั้งหมดยกเว้น น้ำมันงา และงาขาว ใส่ในโถปั่นแล้วปั่นรวมกันให้ละเอียด 2.เทส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อตั้งไฟใช้ไฟแรงจนน้ำจิ้มสุกี้เดือดแล้วลดไฟลงใช้ไฟกลางเคี่ยวต่อจนได้น้ำจิ้มสุกี้ตามลักษณะที่ต้องการใส่น้ำมันงาแล้วดับไฟ

ปลาหมึกผัดไข่เค็มทำกับข้าวขายเป็นรายได้เสริมทำที่บ้าน รายได้เสริมทำที่บ้านที่ผู้เขียนนำมาแนะนำในวันนี้ เป็นเรื่องของปลาหมึกค่ะ ถ้าพูดถึงอาหารทะเลอย่างเช่น ปลาหมึก หลายคนก็คงต้องนึกถึงเมนูประเภทปิ้งย่างทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดหรืออาหารประเภทยำรสจัดจ้านที่เพียงพูดถึงก็สามารถเรียกน้ำย่อยออกมาได้แล้ว ความจริงปลาหมึกเป็นอาหารทะเลที่ทำได้หลากหลายเมนู สำหรับคนที่ชอบทานปลาหมึกหรือขายอาหารทะเลเป็นรายได้เสริมทำที่บ้านอยู่แล้ว ผู้เขียนมีวิธีทำปลาหมึกผัดไข่เค็มมาแนะนำให้เป็นเมนูเด็ดของร้านค่ะ ส่วนประกอบและวิธีทำสูตรปลาหมึกผัดไข่เค็ม ส่วนประกอบ 1.ปลาหมึกกล้วยตัวขนาดกลาง 3 ตัว 2.ไข่เค็ม 1 ฟองใช้แต่ไข่แดง 3.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 3.หอมใหญ่ ½ หัวซอยหยาบๆ 4.ต้นหอมตัดท่อน 5 ต้น 5.คึ่นฉ่ายหั่นท่อน 3 ต้น 6.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา 7.น้ำปลาดี ½ ช้อนโต๊ะ 8.น้ำมันหอย 9.กระเทียบทุบ 3 กลีบ 10.พริกแดงซอยเฉลียง 11.น้ำเปล่า วิธีทำปลาหมึกผัดไข่เค็ม 1.ล้างปลาหมึกให้สะอาด จากนั้นนำไปปลาหมึกทั้งตัวไปลวกในน้ำร้อนที่เดือดจัดจนสุกแล้วนำขึ้นพักไว้ 2.นำปลาหมึกมาหั่นเป็นแว่นๆ ขนาดพอคำ 3.ตั้งกระทะใส่น้ำมันรอจนร้อน นำกระเทียบทุบลงไปเจียวพอเริ่มเหลืองและมีกลิ่นหอม 4.ใส่ไข่เค็มลงไปยีจนไข่เค็มละลายกับน้ำมันนำปลาหมึกที่หั่นไว้ลงไปผัดในกระทะใส่ 5.จากนั้นใส่หอมใหญ่ลงไปผัดปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาลทราย หากแห้งเกินไปเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยให้มีน้ำผัดคลุกคลิก 5. เมื่อได้รสตามชอบแล้วให้ใส่พริกแดงซอย ต้นหอมหั่นท่อน และต้นคึ่นฉ่ายลงไปผัดแล้วปิดไฟทันที 6.ตักใส่จานแต่งหน้าด้วยใบคึ่นฉ่ายเพื่อความสวยงาม

วิธีทำแซนวิชทูน่าทำขายหารายได้เสริมทำที่บ้าน สำหรับคนที่มีรับทำอาหารหรือเครื่องดื่มในงานประชุมสัมมนาตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งที่ทำเป็นอาชีพและรับทำเพื่อหารายได้เสริมทำที่บ้าน หากรับงานบ่อยๆและทำเป็นประจำก็คงเคยพบกับปัญหาราคาขนมที่นำมาทานคู่กับเครื่องดื่ม ประเภทน้ำชากาแฟมีราคาแพงทำให้มีต้นทุนสูงหรือมีกำไรน้อยโดยเฉพาะขนมกลุ่มเบเกอรี่หรือคุ๊กกี้ สำหรับคนที่รับทำเบรคหรืออาหารว่างเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านวันนี้ผู้เขียนมีวิธีทำแซนวิชทูน่าแบบง่ายๆเพื่อทานคู่กับเครื่องดื่มในงานประชุมสัมมนาต่างๆ เรามาดูรูปแบบส่วนผสมและวิธีทำกันเลยค่ะ ดัดแปลงรูปแบบแซนวิชทูน่าให้เหมาะสำหรับจัดเบรค “แซนวิชทูน่า” เป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่างที่นิยมทานเพราะสะดวกรวดเร็วและทานง่าย แต่ขนาดของแซนวิชที่ทำขายอยู่ทั่วไปอาจไม่เหมาะสำหรับทำเป็นเบรคหรือของว่างทานคู่กับน้ำชากาแฟในงานประชุมสัมมนาต่างๆ ดังนั้นสูตรและวิธีทำที่ผู้เขียนนำมาในวันนี้เป็นการดัดแปลงรูปแบบแซนวิชให้มีขนาดและมีต้นทุนที่เหมาะสำหรับเป็นอาหารว่างในงานประชุมสัมมนาเพื่อให้คนที่ต้องการมีรายได้เสริมทำที่บ้านได้นำไปทำขายค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำแซนวิชทูน่า ส่วนผสม 1.ขนมปังนำมาตัดขอบทั้งสี่ด้าน 2.ทูน่าน้ำสลัด 1 กระป๋อง 3.น้ำสลัด 4 ช้อนโต๊ะ 4.แครรอทหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ 1 ช้อนโต๊ะ 5.เกลือป่นเล็กน้อย วิธีทำ 1.นำขนมปังมาตัดขอบออกทั้งสี่ด้าน ควรเลือกชนิดที่ยังไม่ตัดขอบเพราะจะมีราคาถูกกว่าแบบตัดขอบแล้ว 2.เปิดกระป๋องทูน่า แล้วนำเอาแต่เนื้อทูน่ามาบีบน้ำทิ้งแล้วพักไว้ 3.จากนั้นนำเนื้อทูน่าทีได้ใส่ลงในโถปั่น เติมเกลือป่น และใส่น้ำสลัดลงไป 4.ปั่นด้วยความเร็วสูงเพื่อให้ส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน 5.เมื่อได้ส่วนผสมตามที่เราต้องการแล้วเทใส่ภาชนะพักไว้ จากนั้นใส่แครอทแล้วคนส่วนผสมให้เข้ากัน 6.นำส่วนผสมที่ได้มาทาขนมปังที่ตัดขอบไว้ให้ทั่วแผ่น จากนั้นนำขนมปังอีกแผ่นมาปิดทับ