วิธีทำขนมเม็ดขนุนสูตรแบบโบราณดั้งเดิมขนมมงคลของไทย
ขนมเม็ดขนุน งานพิเศษวันนี้ เป็นเรื่องของ เม็ดขนุน หนึ่งในเมนูขนมมงคลของไทย ที่จะขาดไม่ได้เลยสำหรับพิธีสงฆ์ในงานมงคลต่างๆ เพราะเม็ดขนุนเป็นขนมมงคลตระกูลทองที่จะต้องจัดคู่กับ ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง เม็ดขนุนเป็นขนมหวานที่มีสูตรส่วนผสมไม่มาก แต่เป็นขนมที่ต้องใช้เวลาและมีความประณีตในการทำ ทำให้มีราคาแพงและหาซื้อขนมที่ทำสดๆใหม่ๆได้ยาก สำหรับคนที่สนใจต้องการทำเป็นงานพิเศษ eveleighmarket.com มีสูตรและวิธีทำมานำเสนอค่ะ ขนมเม็ดขนุน ขนมมงคลของไทย ปัจจุบันเม็ดขนุนสูตรแบบโบราณดั้งเดิมที่ปั้นด้วยมือทำสดๆใหม่ๆหาทานได้ยากมาก ที่มีขายอยู่ตามท้องตลาด รสชาติหวานจัดเพราะต้องเก็บให้ได้หลายๆวัน เนื้อขนมแข็งไม่นิ่มส่วนหนึ่งเพราะต้องใช้เครื่องจักรแทนการปั้นด้วยมือเพราะทำให้ได้เม็ดขนุนในปริมาณมากๆโดยที่ไม่ต้องเสียเวลา หากทำทานหรือรับทำเป็นงานพิเศษ มีสูตรส่วนผสมและขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ วิธีทำเม็ดขนุน ส่วนผสม 1.ถั่วเขียวผ่าซีก(ชนิดไม่มีเปลือก) 500 กรัม 2.น้ำตาลทราย 2 ถ้วย 3.กะทิ 2 ½ถ้วย วิธีทำขนมเม็ดขนุน 1.นำถั่วเขียวใส่ในภาชนะแช่น้ำไว้ 1 คืน 2.เทน้ำที่แช่ถั่วทิ้งไป แล้วล้างให้สะอาด 3.นำถั่วที่ได้มานึ่งในลังถึงโดยรองก้นลังถึงด้วยผ้าขาวบาง นำถั่วเขียวที่แช่น้ำโรยลงบนผ้าขาวบ้างใช้ปลายผ้าคลุมไว้ 4.นึ่งถั่วให้สุก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากสุกแล้วยกลงผึ่งให้เย็น 5.ใช้เครื่องปั่นถั่วกับน้ำกะทิให้ละเอียด 6.จากนั้นเทใส่กระทะทองเหลือง เติมน้ำตาลทราย ตั้งไฟกวนด้วยไฟกลาง กวนอย่าหยุดมือ 7.เมื่อถั่วเริ่มแห้งให้ลดไฟลงแล้วกวนต่อจนได้เนื้อถั่วสุกและแห้งพร้อมปั้น 8.ปั้นถั่วเป็นเม็ดเล็กๆตามขนาดที่ต้องการ ขณะปั้นควรใช้ผ้าขาวบางปิดคลุมไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ถั่วที่กวนถูกลมจนแห้งเกินไป ทำให้ปั้นไม่ได้หรือปั้นยากถั่วที่ปั้นแล้วควรใส่ในภาชนะมีฝากปิดหรือใช้ผ้าขาวบางคลุมไว้ ส่วนผสมน้ำเชื่อและไข่สำหรับชุบเม็ดขนุน 1.ไข่เป็ด 10 ฟอง 2.น้ำตาลทราย 6 ถ้วย 3.น้ำเปล่า 5 ถ้วย วิธีทำน้ำเชื่อมและชุบเม็ดขนุน 1.เทน้ำเปล่าใส่กระทะทองเหลือง ตั้งไฟจนน้ำร้อน เทน้ำตาลทรายที่เตรียมไว้ลงไปเชื่อมโดยไม่ต้องคนระหว่างเคี้ยวน้ำตาลให้ใช้กระชอนถี่ๆตักฟองทิ้ง 2.ตอกไข่ทีละใบใช้มือกรองเอาแต่ไข่แดง จากนั้นกรองไข่แดงด้วยกระชอน 3.ขั้นตอนการชุบเม็ดขนุน น้ำเชื่อมที่เคี้ยวได้แล้วปิดไฟ หรือหรี่ไฟอ่อนๆ 4.นำเม็ดขนุนที่ปั้นไว้ ชุบไข่แดงใช้ช้อนตักหยอดในน้ำเชื่อมจนเต็มกระทะ จากนั้นเร่งไฟขึ้นเล็กน้อยใช้เวลาประมาณ…
วิธีทำขนมถังแตกลงทุนน้อย ขายง่ายและกำไรดี
ขนมถังแตก รายได้พิเศษวันนี้ เป็นเรื่องของ “ขนมถังแตก” ขนมหวานที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดี โดยเฉพาะตามงานวัด งานกาชาด หรืองานประจำปีต่างๆและเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ลองลิ้มชิมรสชาติของขนมถังแตกมาแล้ว ขนมถังแตกยังได้ชื่อว่าเป็นของหวานขวัญใจเด็กๆและคนมีรายได้น้อย เพราะขนาดชิ้นที่ใหญ่จนสามารถทานได้ทั้งครอบครัว ทำให้เป็นที่มาของชื่อ “ขนมถังแตก” สูตรและวิธีทำขนมถังแตก ถึงแม้จะเป็นขนมหวานงานวัดขวัญใจคนยาก แต่รสชาติที่หวานหอมทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป สำหรับคนที่ต้องการมีรายได้พิเศษ ขนมถังแตกมีส่วนผสมและวิธีทำง่ายๆวันนี้ eveleighmarket.com มีสูตรขนมถังแตกที่สามารถทำทานเองหรือฝึกทำขายหารายได้พิเศษมาแนะนำ เรามาดูสูตรและวิธีทำกันเลยค่ะ ส่วนผสมแป้ง 1.แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง 2.แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง 3.ยีสต์ 1 ช้อนชา 4.เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา 5.น้ำตาล 1 ถ้วยตวง 6.ผงฟู ½ ช้อนชา 7.น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง 8.น้ำมันพืชหรือเนย สำหรับทากระทะ ส่วนผสมสำหรับทำไส้ มะพร้าวอ่อนหรือมะพร้าวทึนทึกขูด 2 ถ้วย น้ำตาลทราย 300 กรัม เกลือป่น 1 ช้อนชา งาขาวและงาดำคั่ว 100 กรัม วิธีทำ 1.ผสมแป้ง ยีสต์ น้ำตาลทรายในอ่างหรือภาชนะอื่นๆ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นทำเป็นหลุมตรงกลางแล้วเทน้ำลงไป ตีส่วนผสมให้กันสังเกตไม่มีแป้งเป็นเม็ดๆ และน้ำตาลทรายละลายดีแล้ว 2.เทแป้งใส่ภาชนะที่มีฝาปิด จากนั้นหมักแป้งทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที 3.เมื่อได้แป้งที่หมักไว้แล้ว ให้ใส่เบกกิ้งโซดาและผงฟูลงไป ตีส่วนผสมอีกครั้งหนึ่งจนมีฟองขึ้นแล้วพักไว้ 3. ตั้งกระทะเทปล่อน ใช่ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ทาน้ำมันหรือเนยบางๆให้ทั่วกระทะ จากนั้นนำแป้งที่ได้เทใส่กระทะ ปิดฝารอจนแป้งสุก ใส่ไส้มะพร้าวขูดที่คลุกเกลือป่นไว้ลงไป คลุกน้ำตาลทรายและงาดำงาขาว…
ขายขนมไทยขนมมงคลช่วงเทศกาลหารายได้พิเศษ
ขายขนมไทยขนมมงคลหารายได้พิเศษ สำหรับคนที่ต้องการหารายได้พิเศษ ขายขนมไทยขนมมงคลหาช่วงเทศกาล เป็นอาชีพที่น่าสนใจและน่าลงทุนที่สุด เนื่องจากช่วงเทศกาลต่างๆลูกหลานญาติพี่น้องที่อยู่ต่างถิ่นต่างที่มักเดินทางกลับบ้าน และซื้อของขวัญของฝากกลับไปมอบให้พ่อแม่บุคคลที่เคารพนับถือเช่นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ของที่นิยมมอบให้แก่กันได้แก่ขนมไทยหรือขนมมงคลต่างๆ อาทิ ฝอยทองกรอบ ทองหยิบทองหยอด เม็ดขนุน ขนมถ้วยฟู ขนมชั้น ขนมเปี๊ยะ และอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่บรรจุอยู่ในหีบห่อที่สวยงามน่ารัก เหมาะสำหรับขายหารายได้พิเศษ ไม่จำเป็นต้องทำเองซื้อมาขายหารายได้พิเศษมากมาย ขนมไทยขนมมงคลต่างๆ ไม่จำเป็นต้องทำเองให้ยุ่งยากเพราะปัจจุบันมีตลาดค้าส่งที่มีขนมให้เลือกซื้อมาขายหารายได้พิเศษมากมายอย่างเช่น ตลาดไทย ตลาดสี่มุมเมือง ที่มีขนมสดใหม่ทุกรูปแบบจากแหล่งผลิตที่มีชื่อเสียงเช่น ขนมหวานจากจังหวัดเพชรบุรีและจากกลุ่มแม่บ้านหรือกลุ่มโอทอป จากทั่วประเทศ มีการจัดหีบห่ออย่างสวยงาม ราคาส่งขนมไทยขนมมงคลมีหลายราคาอย่างเช่นขนมหวานไทยๆที่จัดใส่ถาดโฟมเล็กๆราคาขาย 20 บาท ซึ่งเหมาะสำหรับเลือกซื้อได้หลายๆชนิด ขนมเปี๊ยะที่มีหลายขนาดตั้งแต่ราคา 50 บาท -100 บาทหรือมากกว่านั้น และขนมที่บรรจุอยู่ในกล่องขนาดใหญ่สำหรับมอบเป็นของขวัญโดยเฉพาะซึ่งอาจมีราคาแพงเหมาะที่จะนำไปมอบเป็นของขวัญของฝากสำหรับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ
ขายบัวลอยไข่หวานหลังเลิกงานหารายได้พิเศษ
หารายได้พิเศษขายบัวลอยไข่หวาน “บัวลอยไข่หวาน” ขนมหวานของไทยที่ต้องใช้ฝีมือและความละเอียดอ่อนในการทำ เป็นขนมหวานที่หน้าตาสวยงามรสชาติหวานชื่นใจ เหมาะสำหรับทำเป็นอาชีพหารายได้พิเศษหลังเลิกงาน บัวลอยไข่หวานเป็นขนมหวานที่มีวิธีทำและขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก แต่ต้องมีความประณีตในการทำ ขายง่ายรายได้ดี จุดเด่นของขนมบัวลอยไข่หวานอยู่ที่การปั้นบัวลอยให้มีหลากสีสัน โดยใช้สีจากธรรมชาติ เช่น ดอกอัญชัน ฝักทอง เผือก ใบเตย รวมถึงกะทิสดที่ช่วยทำให้รสชาติขนมอร่อยยิ่งขึ้น สำหรับคนที่สนใจขายบัวลอยไข่หวานหารายได้พิเศษ ผู้เขียนมีสูตรและวิธีทำมาฝากค่ะ วิธีทำขนมบัวลอยไข่หวาน อุปกรณ์ กระทะทองเหลือง หม้อหรือภาชนะสำหรับใส่กะทิและน้ำเชื่อม กะละมัง กระบวยสำหรับตักกะทิและน้ำเชื่อม กระบวยหรือกระชอนเล็กๆสำหรับตักบัวลอย ถึงพลาสติก ยางวง เต้าแก๊ส ส่วนผสม 1.แป้งข้าวเหนียว 4 ถ้วยตวง 2.น้ำเปล่า 3 ถ้วย 3.น้ำตาลทราย 6 ถ้วย 4.มะพร้าวขูด 1 ½ กิโล หรือคั้นให้ได้น้ำกะทิ 6 ถ้วย 5.เกลือป่นเล็กน้อย วิธีทำ 1.นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่า นวดจนแป้งนิ่มหากต้องการให้บัวลอยมีหลายสีให้แบ่งแป้งออกเป็นส่วนๆแล้วนำส่วนผสมที่ต้องการให้เกิดสีลงไป เช่น ฝักทองบด เผือกบด น้ำใบเตย น้ำดอกอัญชัน 2.จากนั้นปั้นเม็ดบัวลอย แป้งส่วนที่ยังไม่ได้ปั้นให้ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำแล้วบิดพอหมาดๆคลุมไว้ 3.ต้มน้ำเชื่อมโดยนำน้ำตาลทรายใส่หม้อพร้อมใบเตยเคี่ยวไฟปานกลางจนน้ำเชื่อมข้นแล้วยกลงพักไว้ 4.นำน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนเติมเกลือคนเรื่อยๆไม่ให้กะทิเป็นก้อนจนกะทิสุกยกลงพักไว้ 5.นำน้ำใส่ภาชนะยกขึ้นตั้งไฟให้เดือนแล้วนำเม็ดบัวลอยต้มให้สุก พอแป้งลอยให้ตักขึ้นแล้วนำไปผ่านน้ำเย็น ทำให้เด็ดน้ำแล้วแช่ไว้ในน้ำเชื่อม (จะทำให้เนื้อบัวลอยมีรสหวาน) 6.เทน้ำใส่กระทะทองเหลืองนำขึ้นตั้งไฟโดยผสมน้ำเชื่อมให้มีรสหวานอ่อนๆใส่ใบเตยเพื่อให้มีกลิ่นหอม พอน้ำเดือนตอกไข่ไก่ใส่ 1 ฟองพอไข่สุกตักใส่ถุง ใส่เม็ดบัวลอย เติมน้ำเชื่อมและกะทิ