สูตรและส่วนผสมน้ำพริกหนุ่มพร้อมเคล็ดลับความอร่อยทำขายหารายได้พิเศษ
น้ำพริกหนุ่มทำขายหารายได้พิเศษ น้ำพริกเป็นเมนูอาหารหลักที่ต้องมีอยู่ในมื้ออาหารของคนไทยเป็นประจำส่วนใหญ่จะมีรสเผ็ดทำให้ต้องทานคู่กับเครื่องเคียงอย่างเช่นผักต่างๆการปรุงน้ำพริกมีหลายสูตรในแต่ละท้องถิ่นแต่ละภาคก็จะมีวิธีการปรุงที่แตกต่างกันเช่นน้ำพริกหนุ่มเมนูอาหารของทางภาคเหนือ ที่นอกจากจะนิยมทานกันในท้องถิ่นแล้วก็ยังเป็นน้ำพริกที่คนส่วนใหญ่รู้จักและนิยมทานกันมาก จนมีการนำมาทำขายเป็นการหารายได้พิเศษหรือทำเป็นงานพิเศษอยู่ทั่วทุกภาค สำหรับคนที่สนใจอยากได้สูตรและวิธีทำน้ำพริกหนุ่มเพื่อทำขายหารายได้พิเศษ หรือทำไว้ทานภายในครอบครัว วันนี้ผู้เขียนมีสูตรและวิธีทำมาฝากค่ะ สูตรและส่วนผสมน้ำพริกหนุ่มวิธีทำน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกหนุ่มมีหลายสูตรแต่ก็มีวิธีทำและส่วนผสมหลักๆ คล้ายกันขึ้นอยู่กับความชอบและความนิยมของแต่ละท้องถิ่น โดยทั่วไปสูตรการทำน้ำพริกหนุ่มมี 3 สูตร คือ สูตรใส่ถั่วเน่า สูตรใส่ปลาร้า และสูตรที่ไม่ใส่ทั้งถั่วเน่าและปลาร้าซึ่งเหมาะกับคนที่ไม่ทานปลาร้าหรือไม่ชอบกลิ่นของถั่วเน่าสำหรับคนที่จะนำสูตรไปทำขายเพื่อหารายได้พิเศษผู้เขียนแนะนำให้ทำสูตรที่3 คือไม่ใส่ทั้งถั่วเน่าและปลาร้าเพื่อให้ลูกค้าสามารถทานได้ทุกคน สูตรและขั้นตอนการปรุงเป็นอย่างไรเรามาดูกันเลยค่ะ สูตรและส่วนผสมน้ำพริกหนุ่ม เครื่องปรุง 1.พริกหนุ่ม 10 เม็ด 2.กระเทียม 3 หัว 3.หัวหอม 7 หัว 4.เกลือป่น ½ ช้อนชา วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม 1.นำพริกหนุ่ม กระเทียม หัวหอม ไปเผาไฟอ่อนๆจนสุกแล้วปอกเปลือกออกให้หมด 2.โขลกพริกหนุ่ม กระเทียม หัวหอมพอหยาบๆปรุงรสด้วยเกลือป่น 3.ทานกับข้าวสวยร้อนๆหรือข้าวเหนียว คู่กับผักเคียงหรือแคบหมู เคล็ดลับความอร่อย 1.พริกที่ใช้ต้องเป็นพริกหนุ่ม (พันธุ์พริก) เพราะจะได้พริกที่ไม่เผ็ดมากหากใช้พริกหยวกหรือพริกชี้ฟ้าเวลานำไปเผาจะปอกเปลือกได้ยากกว่า และรสชาติของพริกหยวกก็จะเผ็ดน้อยต่างจากพริกชี้ฟ้าก็ที่มีรสเผ็ดมากเกินไป 2.เวลาเผาพริก กระเทียม หรือหัวหอม ต้องใช้ไฟอ่อนๆและไม่เผาไหม้จนเกินไปเพราะจะทำให้สีของน้ำพริกไม่เขียวสวย
วิธีการทําซุปข้าวโพดทำขายหารายได้พิเศษ
การทําซุปข้าวโพดทำขายหารายได้พิเศษ ข้าวโพดหวานเป็นธัญพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและยังเป็นที่ชื่นชอบของเด็กและผู้ใหญ่ นอกจากนำมาต้มทานหรือต้มขายหารายได้พิเศษแล้ว ข้าวโพดยังใช้เป็นส่วนประกอบในขนมหวานได้หลากหลายชนิดและยังนำมาทำเป็นซุปข้าวโพดเมนูอาหารว่างเพื่อสุขภาพเพราะข้าวโพดมีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพ ซุปข้าวโพดจึงเป็นเมนูอาหารที่เหมาะสำหรับทุกคนโดยเฉพาะเด็กๆที่กำลังเจริญเติบโต ช่วงนี้เป็นช่วงเปิดเทอมใหม่ๆผู้เขียนขอเอาใจคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกกำลังอยู่ในวัยเรียนด้วยการนำสูตรและวิธีทำซุปข้าวโพดมาฝากเพื่อให้คุณแม่ได้นำสูตรไปทำให้เด็กๆทานหรือจะทำขายหารายได้พิเศษในช่วงนี้ก็ได้ค่ะ วิธีทำซุปข้าวโพด วิธีทำซุปข้าวโพดสำหรับเด็กทำได้ 2 แบบนะค่ะคือใช้ข้าวโพดหวานที่ได้จากฝักสดๆและการทำซุปข้าวโพดจากข้าวโพดกระป๋อง สูตรที่แนะนำในวันนี้เป็นการใช้ข้าวโพดหวานสดๆเพราะเป็นช่วงหน้าฝนที่ข้าวโพดหวานราคาไม่แพงและหาง่ายนอกจากทำให้ลูกๆทานแล้วยังทำขายหารายได้พิเศษหรือทำเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย ซุปข้าวโพดมีส่วนผสมและวิธีทำอย่างไรเรามาดูกันเลยค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำซุปข้าวโพด ส่วนผสม 1.ข้าวโพดหวานที่ต้มสุกแล้วนำมาหั่น 3 ถ้วย 2.มะเขือเทศเอาเมล็ดออกหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ 3.นมสด 2 ถ้วย 4.แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ 5.เกลือป่น 1 ช้อนชา วิธีทำซุปข้าวโพด 1.นำข้าวโพดที่หั่นไว้ใส่ลงในโถปั่นเติมนมสดลงไปปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด 2.นำส่วนที่ได้ใส่ภาชนะนำไปตั้งไฟอ่อนๆ เติมแป้งมันและเกลือลงไปคนตลอดเวลาเพื่อไม่ให้แป้งจับตัวกันเป็นก้อน 3.จากนั้นใส่มะเขือเทศหั่นเต๋าลงไป พอน้ำซุปเริ่มข้นปิดไฟแล้วยกลง 4.ตักเสิร์ฟขณะอุ่นๆหรือให้เด็กๆทานคู่กับขนมปัง
ถักโครเชต์รูปหัวใจหารายได้พิเศษหรือมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษในโอกาสพิเศษ
ถักโครเชต์รูปหัวใจหารายได้พิเศษ งานถักโครเชต์มีหลายรูปแบบ สำหรับการถักเพื่อหารายได้พิเศษ นอกจากเลือกถักโครเชต์ที่เป็นงานชิ้นเล็กๆ ลงทุนน้อยและราคาถูกแล้วงานนั้นก็ต้องมีความน่าสนใจหรือมีความหมายที่สามารถนำไปมอบเป็นของขวัญ ของฝากหรือเป็นของที่ระลึกเนื่องในวาระต่างๆได้หลายโอกาส งานถักโครเชต์รูปหัวใจเป็นงานถักอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจและสามารถนำมาหารายได้พิเศษได้ง่าย อาจถักเอาไว้ขายหรือมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษในโอกาสพิเศษ งานถักโครเชต์รูปหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นงานชิ้นเล็กๆหรืองานถักโครเชต์รูปหัวใจขนาดใหญ่อย่างเช่นหมอนรูปหัวใจ เป็นงานที่มีความหมายสามารถสื่อความหมายความรู้สึกของผู้มอบที่มีต่อผู้รับได้โดยไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ เช่นมอบเป็นของขวัญวันแต่งงาน วันแห่งความรัก วันรับปริญญา และในวาระโอกาสต่างๆ การถักโครเชต์เป็นชิ้นงานรูปหัวใจเพื่อหารายได้พิเศษมีความน่าสนใจและมีจุดขายอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว รูปแบบวิธีการถักหรือแพทเทิร์นสามารถศึกษาหรือหาได้จากอินเทอร์เน็ตหรือหนังสือเกี่ยวกับงานถักโครเชต์ สำหรับคนที่เริ่มหัดถักใหม่ๆและสนใจงานรูปหัวใจควรเริ่มต้นถักจากงานง่ายๆหรือศึกษาจากคลิปในยูทูป ซึ่งสอนวิธีการถักโครเชต์รูปหัวใจตั้งแต่พื้นฐาน และยังมีรูปแบบงานถักโครเชต์รูปหัวใจที่หลากหลาย ตั้งแต่งานง่ายๆไปจนถึงชิ้นงานที่มีขั้นตอนการถักที่ละเอียดซับซ้อน การศึกษางานถักโครเชต์จากยูทูปมีข้อดี คือสามารถเรียนรู้สัญลักษณ์การถักอย่างเข้าใจ อย่างเช่น สัญลักษณ์ XV คืออะไรมีวิธีการถักอย่างไร หรือสัญลักษณ์ 6X และ 6X (4ครั้ง) คืออะไรซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรียนรู้ได้อย่างเข้าใจและง่ายขึ้น การหารายได้พิเศษจากงานฝีมืออย่างเช่นงานถักโครเชต์รูปหัวใจ เป็นงานที่ทำได้ช้าเพราะเป็นงานฝีมือที่ทำในเวลาว่าง ถึงแม้จะเป็นงานง่ายๆแต่ก็ต้องมีความละเอียดประณีตในการทำ
งานถักโครเชต์งานอดิเรกที่น่าสนใจทำเพื่อหารายได้เสริม
งานถักโครเชต์งานอดิเรกที่น่าสนใจทำเพื่อหารายได้เสริม โครเชต์ งานฝีมือที่เชื่อว่าผู้หญิงเกือบจะทุกคนรู้จักและเคยทำมาบ้างแล้ว เพราะเป็นงานฝีมือที่มีหลายรูปแบบงานถักโครเชต์บางอย่างเรียนรู้และทำได้ง่ายคนส่วนใหญ่นิยมทำเป็นงานอดิเรกมากกว่าทำเพื่อหารายได้เสริม อุปกรณ์หลักๆของงานถักโครเชต์มีเพียงเข็มถักและด้ายหรือไหมพรมขนาดต่างๆที่สามารถเลือกใช้ให้กับเหมาะกับงานแต่ละประเภทแต่ละชนิด และยังเป็นงานฝีมือที่คนเลือกทำเพราะมีความรักและชื่นชอบเป็นส่วนตัวไม่เน้นทำเพื่อให้มีรายได้เสริม ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนที่ชื่นชอบงานฝีมือเหล่านี้ไม่สนใจประวัติความเป็นมาของงานถักโครเชต์ว่ามีความเป็นมาอย่างไร สำหรับคนที่สนใจวันนี้ผู้เขียนมีเกร็ดความรู้มาฝากค่ะ ประวัติความเป็นมาของงานถักโครเชต์ งานถักโครเชต์คืองานหัตถกรรมที่อาศัยทักษะฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างชิ้นซึ่งในอดีตไม่ได้เน้นการถักเพื่อเป็นอาชีพหรือหารายได้เสริม แต่ทำเพื่อใช้สอยเป็นหลักคำว่า “โครเชต์” มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่าตะขอ ซึ่งหมายถึงเครื่องมือที่ใช้สำหรับทำของหรูหราใช้ในชีวิตประจำวัน งานถักโครเชต์เริ่มขึ้นที่ไอร์แลนด์เมื่อเกือบ 200 กว่าปีมาแล้ว ในช่วงทศวรรษ 1820 โดยมาดมัวแซล รีเอโก ลา บลองชาแดร์ ที่ค้นพบว่าการนำอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยของชาวไอริชมาถักลายลูกไม้แบบสเปนจะทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นจึงได้เรียนรู้และทดลองถักเป็นเวลาถึง 5 ปี จนทำให้เธอออกหนังสือลายถักโครเชต์แต่ไม่ได้รับการตีพิมพ์อย่างแพร่หลายทำให้ชื่อเสียงของเธอไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่การตีพิมพ์หนังสือของเธอก็ทำให้มีศูนย์ถักโครเชต์อยู่ทั่วประเทศ เมื่อปี 1845 เริ่มมีการสอนถักโครเชต์ในโรงเรียน งานถักโครเชต์เริ่มแพร่หลายเมื่อมีการนำไปสอนแม่บ้านที่ยากจนเพื่อถักโครเชต์เป็นอาชีพและนำผลงานไปขายและยังได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากภรรยาของวุฒิสมาชิกซึ่งเธอมีบทบาทคอยช่วยเหลือคนยากจนโดยการเปิดอุตสาหกรรมโครเชต์จนทำให้กิจการรุ่งเรืองมีการส่งสินค้าไปขายยังลอนดอน ปารีส เวียนนา และอเมริกาใน ปี 1893
สูตรขนมปังเนยสดวิธีทำขนมปังเนยสดทำขายหารายได้พิเศษ
ทำขนมปังเนยสดขายหารายได้พิเศษ ขนมปังเป็นขนมหวานหรือของว่างสำหรับทานเล่นและยังเป็นอาหารเช้ามากคุณประโยชน์เมื่อทานคู่กับเครื่องดื่มเช่นน้ำผลไม้ นม หรือน้ำชา กาแฟ เพื่อให้อิ่มท้องก่อนออกจากบ้าน ขนมปังมีหลายประเภทบางสูตรยังมีวิธีและขั้นตอนการทำง่ายๆนอกจากทำทานได้แล้วยังสามารถทำขายหารายได้พิเศษอยู่กับบ้านหรือทำขายในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้ด้วย ขนมปังเนยสดเป็นอีกหนึ่งเมนูที่มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากและยังเป็นขนมปังที่คนส่วนใหญ่นิยมทาน สำหรับคนที่สนใจสูตรจะนำไปทำขายหารายได้พิเศษหรือทำทานเองวันนี้ผู้เขียนมีสูตรและวิธีทำมาฝากค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำขนมปังเนยสด ส่วนผสมขนมปังเนยสด 1.แป้งขนมปัง 450 กรัม 2.แป้งเค้ม 100 กรัม 3.น้ำตาลทราย 150 กรัม 4.เกลือป่น 1 ช้อนชา 5.ไข่ไก่ 1 ฟอง 6.เนยสด 90 กรัม 7.ยีสต์ 10 กรัม 8.น้ำเปล่า 320 กรัม วิธีทำสูตรขนมปังเนยสด 1.นำแป้งขนมปัง แป้งเค้ก และยีสต์ ใส่ภาชนะ 2.ละลายน้ำตาล เกลือป่นในน้ำเปล่าที่เตรียมไว้ใส่ไข่ลงไปตีให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเป็นเนื้อเดียวกัน 3.นำส่วนผสมที่ได้เทใส่ลงไปแป้งทีละน้อยแล้วนวดแป้งพอเข้ากันแล้วเติมเนยสด นวดจนเนื้อแป้งเนียนได้ที่ 4.จากนั้นหมักก้อนแป้งโดยนำผ้ามาคลุมทิ้งไว้ 45 นาทีเพื่อไม่ให้ผิวแป้งแห้งและตัวแป้งขึ้นเป็นสองเท่า 5.เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วใช้มือตีแป้งเบาๆเพื่อไล่ลมหรือฟองอากาศ จากนั้นนำแป้งมาตัดเป็นก้อนขนาดตามที่ต้องการ หรือประมาณก้อนละ 50 กรัมคลึงแป้งเป็นก้อนกลมๆแล้วทิ้งไว้ 5-10 นาที 6.ตัดเนยเป็นชิ้นๆเล็กสำหรับทำไส้เมื่อใส่ไส้แล้วห่อแป้งให้มิดจากนั้นทิ้งไว้อีก 45 นาทีเพื่อให้แป้งขึ้น 7.ระหว่างรอแป้งให้เปิดไฟเตาอบใช้ไฟ 180 องศาเซลเซียสรอไว้ เมื่อครบกำหนดแล้วนำแป้งที่ได้ไปอบ ใช้เวลาประมาณ 12 นาที ก็จะได้ขนมปังเนยสดไว้ทานหรือทำขายหารายได้พิเศษได้แล้วค่ะ 8.หากใครชอบทานหวานๆ จะโรยน้ำตาลไอซิ่งเพิ่มก็ได้ค่ะนอกจากได้ความหวานแล้วยังทำให้น่าทานยิ่งขึ้น