Your message has been sent, you will be contacted soon

Call Me Now!

ปิด

วิธีทำสเต็กหมูอาหารสไตล์ฝรั่งเศส

  • Array

ขายอาหารจานด่วนเป็นรายได้เสริม การหารายได้เสริมจากการขายอาหารจานด่วน หรืออาหารจานเดียวเป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ซึ่งนอกจากอาหารไทยยอดนิยมอย่างเช่น ข้าวผัด ข้าวผัดกระเพราไข่ดาวหรือเมนูอาหารจานด่วนอื่นๆแล้ว อาหารสไตล์ฝรั่งเศส อย่างเช่นสเต๊กหมูก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนไทยนิยมทานถึงแม้สเต็กจะเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากฝรั่งเศสแต่ก็มีวิธีทำที่ไม่ยุ่งยาก หลายคนนอกจากทำทานเองแล้วยังเป็นงานพิเศษทำที่บ้านที่ช่วยให้มีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นอีกด้วย เครื่องปรุงและวิธีทำสเต็กหมู วิธีทำสเต็กหมูมีหลายสูตร แต่ที่ eveleighmarket.com แนะนำในวันนี้เป็นสเต๊กหมูแบบง่ายๆที่มีเครื่องปรุงและขั้นตอนการทำไม่ยุ่งเหมาะสำหรับทำขายหารายได้เสริมหรือทำทาน เรามาดูรายละเอียดเครื่องปรุงและขั้นตอนการทำเลยค่ะ เครื่องปรุงและวิธีทำสเต็กหมู เครื่องปรุง 1.เนื้อหมู สันนอก หรือสันคอหมู 400 กรัม 2.กระเทียมกลีบเล็ก 5 กลีบ 3.พริกไทยเม็ด 15 เม็ด 4.ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ 5.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา 6.น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ 7.นมสด 1 ช้อนโต๊ะ 8.สับปะรด 2 ชิ้นเล็ก 9.ผักสลัด เช่น หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศสีดา ข้าวโพดหวาน มันฝรั่ง กะหล่ำ แครอท ผักกาดหอม หรือผักอื่นๆตาม ชอบ 10.ฮอทดอกขนาด 4 นิ้ว 2 ชิ้น 11.เนย 1 ก้อนเล็ก หรือน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำสเต็กหมู 1.ล้างเนื้อหมูให้สะอาดแล้วพักไว้ 2.โขลกพริกไทยกับกระเทียมให้ละเอียดแล้วนำมาหมักหมู ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว น้ำตาล น้ำมันหอย นมสด และเพิ่มความนุ่มด้วยสับปะรด หมักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง 3.ระหว่างหมักหมู จัดผักสลัดโดยนำมาล้างทำความสะอาดแล้วแช่น้ำผสมน้ำส้มสายชู หรือแช่น้ำแข็งไว้ 20…

วิธีทำขนมเทียนไส้เค็มการทำแป้งและทำไส้ขนมเทียน

  • Array

ทำขนมขายเป็นรายได้เสริม ขนมเทียน เป็นขนมมงคลอีกหนึ่งอย่างที่ใช้เป็นขนมไหว้ในวันตรุษจีน เพราะมีความหมายสื่อถึงความหวานชื่น ความราบรื่นและอุดมสมบูรณ์ ขนมเทียนมีทั้งไส้เค็มและไส้หวาน นอกจากใช้สำหรับเป็นของเซ่นไหว้ในวันตรุษจีนแล้ว ยังเป็นขนมที่นิยมทำขายเป็นการหารายได้เสริม โดยมีการปรับเปลี่ยนจากใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นแป้งถั่วเขียว แป้งข้าวเหนียวดำ หรือเปลี่ยนจากการใช้ใบตองห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมมาใช้ใส่ในกระทงใบตองแทน สำหรับคนที่สนใจทำขนมเทียนขายหารายได้เสริม วันนี้ eveleighmarket.com มีวิธีทำขนมเทียนไส้เค็มมาแนะนำอีกเช่นเคยค่ะ ส่วนผสมและวิธีทำขนมเทียนไส้เค็ม ส่วนผสมขนมเทียนไส้เค็ม 1.ถั่วเขียวผ่าซีกเลาะเปลือก 300 กรัม 2.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ 3.น้ำตาลทราย 70 กรัม 4.หอมแดงซอย 10 หัว 5.เกลือป่น 1 ช้อนชา 6.พริกไทยป่น 2 ช้อนชา วิธีทำขนมเทียนไส้เค็ม 1.นำถั่วไปแช่น้ำประมาณ 3-4 ชั่วโมง จากนั้นล้างให้สะอาดแล้วนำไปนึ่งจนสุก 2.โขลกถั่วที่ต้มแล้วให้ละเอียด 3.ตั้งกระทะใช้ไฟกลางเจียวหอมที่ซอยไว้พอเหลือง ใส่ถั่วที่โขลกไว้ลงไปผัด เติมน้ำตาล เกลือป่น และพริกไทย ผัดจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันชิมรสตามชอบผัดจนแห้ง 4.นำไส้ที่ผัดมาปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วพักไว้ เพื่อทำไส้ ส่วนผสมตัวแป้ง 1.แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม 2.น้ำตาล 250 กรัม 3.กะทิ 3 ถ้วยตวง วิธีทำแป้งขนมเทียน 1.เทแป้งข้าวเหนียวใส่ในภาชนะ ค่อยๆผสมน้ำตาลให้เข้ากับแป้งแล้วเทกะทิใส่ลงไปนวดกับแป้งจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วพักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง 2.ตัดใบตองให้มีขนาดเท่าๆกัน ใช้กรรไกรตัดด้านปลายให้มีลักษณะมลแล้วเช็ดให้สะอาด หากทำใส่กระทงให้ตัดเป็นลงกลมแล้วนำมาเย็บเป็นกระทงใบเล็กๆ 3.ทาน้ำมันให้ทั่วใบตอง แล้วนำมาทำเป็นกรวยสามเหลี่ยมให้ด้านที่ตัดปลายอยู่ด้านบน 4.ตักแป้งใส่ลงในกรวย จากนั้นนำไส้ที่ปั้นเป็นก้อนไว้วางลงบนแป้ง 5.พับใบตองปิดแป้งที่มีไส้ ใช้นิ้วหัวแม่มือกดไว้แล้วพับใบตองที่อยู่ด้านซ้ายและด้านขวามือมาทับกัน จากนั้นนำด้านที่มีปลายมลพับสอดปลายเข้าไปที่รอยพับ 6.หากทำใส่กระทงใบตองให้ตักแป้งใส่ลงในกระทงเล็กน้อยแล้วนำไส้วางลงบนแป้ง จากนั้นตักแป้งหยอดให้ท่วมไส้ขนมจนเต็มกระทงเรียงลงในลังถึงพร้อมนึ่ง 7.ใส่น้ำในลังถึงแล้วนำไปตั้งไฟจนเดือน จากนั้นนำชั้นลังถึงที่ใส่ขนมเทียนไว้มานึ่งจนสุก

วิธีทำขนมดอกจอกขนมไทยโบราณ

  • Array

ทำขนมไทยโบราณขาย หารายได้เสริมทำที่บ้าน หารายได้เสริมทำที่บ้านวันนี้เป็นเรื่องของขนมดอกจอก ขนมไทยโบราณที่นอกจากกรอบอร่อยแล้วยังเป็นขนมที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นขนมไทย คือมีความประณีต รูปทรงสวยงามน่าทานแต่ปัจจุบันหาทานยาก ขนมดอกจอกมีส่วนผสมและวิธีการทำง่ายๆและใช้เงินลงทุนไม่มากสำหรับคนที่ต้องหารายได้เสริมทำที่บ้านเพียงอ่านสูตรส่วนผสมและทำตามขั้นตอนก็สามารถทำขายได้แล้ว สูตรส่วนผสมและวิธีทำขนมดอกจอก ส่วนผสม 1.แป้งสาลี 300 กรัม 2.แป้งข้าวเจ้า 300 กรัม 3.แป้งมัน 120 กรัม 4.กะทิ 100 กรัม 5.ไข่แดง 2 ฟอง 6.งาดำ 30 กรัม 7.น้ำมันพืชสำหรับผสมแป้ง 120 กรัม 8.น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ลิตร 9.เกลือป่น ½ ช้อนชา 10.น้ำปูนใส 500 กรัม 11.น้ำตาลทราย 300 กรัม อุปกรณ์สำหรับทำขนมดอกจอก 1.พิมพ์ขนม 1-2 อัน 2.ถ้วยกลมๆ 1 ใบ วิธีทำขนมดอกจอก 1.น้ำแป้งทั้ง 3 ชนิดมาร่อนรวมกัน 1 ครั้ง 2.ผสมน้ำตาลทราย กะทิ ไข่แดง เกลือป่น และน้ำปูนใสกับแป้งที่ร่อนไว้คนส่วนผสมให้เข้ากัน 3.ใส่น้ำมันพืชและงาดำ ลงไปในแป้งและส่วนผสม 4.ใส่น้ำมันลงในกระทะ พอน้ำมันเริ่มร้อนให้แช่พิมพ์ลงในน้ำมัน 5.เมื่อพิมพ์เริ่มร้อนให้ยกขึ้นแล้ววางบนกระดาษซับมัน ก่อนนำลงไปจุ่มในแป้ง ลักษณะการจุ่มพิมพ์ลงในกระทะให้จุ่มลงไปประมาณ ¾ของพิมพ์ 6.พอแป้งเริ่มเหลืองให้กดพิมพ์ลงไปที่ก้นกระทะ เขย่าพิมพ์เบาๆเพื่อให้แป้งกับพิมพ์หลุดออกจากกันแล้วทอดต่อจนแป้งเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน 7.ตักขนมขึ้นจากน้ำมันแล้ววางลงบนก้นถ้วย เพื่อให้ขนมมีลักษณะบานสวย รอจนสะเด็ดน้ำมันและหายร้อน บรรจุใส่ภาชนะหรือถุงปิดปากให้สนิทเพื่อไม่ให้ถูกลม

วิธีทำขนมใส่ไส้อร่อยไม่ยุ่งยากซับซ้อน

  • Array

ทำขนมหวานขนมใส่ไส้ขายหารายได้เสริม ขนมหวานของไทยส่วนใหญ่มีกรรมวิธีในการทำที่ละเอียดอ่อนหลายขั้นตอนและนิยมนำวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ห่อหรือเย็บเป็นกระทงสำหรับใส่ตัวขนมซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของขนมไทยที่นอกจากมีรสชาติที่หวานหอมอร่อยแล้วยังมีความประณีตสวยงาม “ขนมใส่ไส้” เป็นขนมไทย อีกชนิดหนึ่งที่นับวันจะหาทานได้ยาก สำหรับคนที่ต้องการมีรายได้เสริม ทำขนมไทยๆอย่างเช่น ขนมใส่ไส้ฝากขายตามร้านอาหารเป็นการหารายได้เสริมที่น่าสนใจค่ะ ขนมใส่ไส้เป็นขนมหวานของไทยที่มีวิธีการทำหลายขั้นตอน แต่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน สำหรับคนที่สนใจสามารถเรียนรู้จากสูตรแล้วนำไปทำขายหารายได้เสริมหรือทำเป็นอาชีพหลักได้ไม่ยาก ซึ่งสูตรและวิธีการทำมีรายละเอียด ดังนี้ สูตรส่วนผสมและวิธีทำขนมใส่ไส้ ส่วนผสม 1.แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง 2.แป้งข้าวเหนียว 4 ถ้วยตวง 3.มะพร้าวขูด 1500 กรัม 4.น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง 5.เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ 6.ใบตองสำหรับห่อ ฉีกเป็นแผ่นๆให้มีขนาดเท่ากัน 7.ทางมะพร้าวสำหรับคาด 8.เข็มกลัด หรือแม็ค 9.น้ำเปล่าหรือน้ำลอยดอกไม้ 2 ถ้วย วิธีทำไส้ขนม 1.เคี่ยวน้ำตาลทราบกับน้ำเปล่า 3 ถ้วยตวงจนน้ำตาลละลายและเริ่มเหนียวเป็นยางมะตูม 2.ใส่มะพร้าวขูด 1000 กรัมลงไปในน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ กวนให้เข้ากันจนเหนียว แล้วยกลงพักให้เย็น 3.นำไส้ขนมที่ได้มาปั้นเป็นลูกกลมๆ ขนาดหัวแม่มือทำจนหมดไส้แล้วพักไว้ วิธีทำหน้าขนม 1.นำมะพร้าวที่เหลือมาคั้นให้ได้น้ำกะทิ 4 ถ้วยตวง ผสมกับแป้งและเกลือป่นคนส่วนผสมให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน 2.แล้วนำไปตั้งไฟกวนจนเริ่มข้นไม่ต้องรอให้แป้งสุกแล้วยกลงพักไว้ วิธีทำแป้งขนมใส่ไส้ 1.นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำจนแป้งนิ่มและเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน 2.แบ่งแป้งเป็นก้อนๆ ให้ใหญ่กว่าไส้ขนมที่ปั้นไว้ นำแป้งมาแผ่ออก เอาไส้ที่ปั้นไว้วางลงตรงกลางห่อแป้งให้มิด 3.จากนั้นนำมาวางลงบนใบตองที่ฉีกไว้ ตักหน้าขนมราดบนก้อนแป้งประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ 4.ห่อใบตองคาดด้วยทางมะพร้าวแล้วกลัดด้วยไม้กลัดหรือใช้ลูกแม็คแทนไม้กลัด 5.นำไปเรียงในลังถึงนึ่งด้วยไฟแรงพอสุกยกลง

ส่วนประกอบวิธีทำขนมกระยาสารทเคล็ดลับความอร่อย

  • Array

ทำขนมขายเป็นรายได้เสริม วิธีหารายได้เสริมทำที่บ้านวันนี้ เป็นเรื่องของ กระยาสารท ขนมหวานของไทยที่ทำจากน้ำตาล ถั่ว งา และข้าวตอกหรือข้าวคั่วในอดีตนิยมทำกันมากในช่วงเทศกาลวันสารทแต่ปัจจุบันมีการปรับปรุงสูตรและรูปแบบการทำกระยาสารทเพื่อให้เหมาะ กับการทำเป็นขนมหวานขายในทุกๆเทศกาล บางท้องถิ่นยังนำมาเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนโดยให้คนในท้องถิ่นร่วมกันทำขายเป็นการหารายได้เสริมทำที่บ้านจนมีชื่อเสียงและกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนั้นๆ สำหรับคนที่สนใจหรือต้องการทำเป็นงานพิเศษเพื่อหารายได้เสริมที่บ้านการทำกระยาสารทขายมีรายละเอียดและขั้นตอนการทำดังนี้ ส่วนประกอบและวิธีทำขนมกระยาสารท ส่วนประกอบ 1.ข้าวตอก 200 กรัม 2.ข้าวเม่า 1 กิโลกรัม 3.ถั่วลิสงคั่ว 3 กิโลกรัม 4.งาคั่ว 500 กรัม 5.น้ำตาลปีบ 2.5 กิโลกรัม 6.น้ำกะทิ 2 กิโลกรัม 7.แบะแซ 2 กิโลกรัม วิธีทำขนมกระยาสารท 1.ใช้กระทะใบบัวใหญ่ๆสำหรับการกวนกระยาสารท โดยนำกะทิ น้ำตาลปีบ และแบะแซ ใส่ในกระทะตั้งไฟใช้เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 2.จากนั้นใส่ข้าวเม่า ข้าวตอก งาคั่ว และถั่วลิสงที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยใช้ไฟอ่อนๆเมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วยกลงพักไว้ให้เย็น 3.นำใส่ภาชนะเก็บไว้ทานได้นาน หากทำขายอาจใส่ถาดแล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆตามที่เราต้องการ จากนั้นบรรจุในภาชนะหรือถุงพลาสติกรัดปาก พร้อมขาย เคล็ดลับความอร่อย การทำกระยาสารมีวิธีการทำไม่ยุ่งยาก แต่มีหลายขั้นตอนซึ่งเริ่มตั้งแต่การคั่วถั่วลิสงแล้วเอาเปลือกออก การคั่วข้าวตอก การทำข้าวเม่า และการเคี่ยวน้ำตาล ซึ่งในแต่ละขั้นตอนมีความสำคัญทั้งหมดการทำต้องใช่ความอดทนและมีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมากการทำกระยาสารทถึงแม้จะใช้สูตรเดียวกันส่วนประกอบต่างๆใช้ในอันตราส่วนที่เท่ากันแต่ทำออกมาแล้วได้รสชาติความอร่อยที่แตกต่างกัน เป็นเพราะความประณีตและความละเอียดอ่อนในการทำค่ะ